การเปิดเผยหนังสือ ‘Eras ​​Tour’ ของ Taylor Swift: ความลับของ BTS และอีกมากมาย

ในฐานะแฟนตัวยงของ Taylor Swift ฉันต้องบอกว่าหนังสือเล่มใหม่ของเธอเกี่ยวกับ The Eras Tour นั้นไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย! วิธีที่เธอรวบรวมประสบการณ์ส่วนตัว ความกระตือรือร้นของแฟนๆ และข้อมูลเชิงลึกเบื้องหลังทำให้เกิดเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่รวบรวมความมหัศจรรย์ของคอนเสิร์ตของเธอไว้อย่างแท้จริง

หลังจากการรอคอยมายาวนาน Taylor Swift กำลังเตรียมที่จะปิดท้ายการทัวร์รอบโลกครั้งใหญ่ของเธอ “Eras Tour” ซึ่งดำเนินมาเกือบสองปีแล้ว ก่อนการอำลาครั้งนี้ เธอได้แบ่งปันความคิดส่วนตัวเกี่ยวกับช่วงเวลาที่น่าจดจำบนเวที ข้อเท็จจริงที่ซ่อนอยู่หลังเวที และอื่นๆ อีกมากมายในหนังสือของเธอชื่อ “Taylor Swift: The Eras Tour Book

ฉันจะไม่มีวันลืมบทสนทนาที่ฉันแชร์ไอเดียเกี่ยวกับ ‘The Eras Tour’ กับทีมของฉัน” Swift วัย 34 ปี ย้อนรำลึกถึงการแนะนำหนังสือซึ่งวางจำหน่ายบนชั้นวางเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน “ในขณะนั้น ฉันกำลังอยู่ระหว่างทำอัลบั้ม ‘Midnights’ ถ้าฉันยึดติดกับกิจวัตรเดิมๆ ฉันคงจะเริ่มวางแผน ‘The Midnights Tour’ แต่ไม่มีอะไรที่ฉันเกลียดมากไปกว่าการยึดติดกับสิ่งที่ฉันทำมาตลอด

ในหนังสือ Swift กล่าวถึงว่าเธอปรารถนาที่จะดื่มด่ำกับทุกยุคสมัยและอัลบั้มที่ผ่านมาอย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านดนตรี สไตล์ และสุนทรียภาพ เธอชี้ให้เห็นว่าหากทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ การแสดงไม่เพียงแต่จะดึงดูดผู้ติดตามล่าสุดเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกย่องผู้ที่เป็นแฟนมาตั้งแต่แรกด้วย

โดยอ้างถึงสามอัลบั้มที่กำลังจะมาถึงที่เธอยังไม่ได้แสดง ได้แก่ “Folklore” และ “Evermore” ตั้งแต่ปี 2020 และ “Midnights” ตั้งแต่ปี 2022 รวมถึงกระบวนการบันทึกซ้ำในหกอัลบั้มแรกของเธอที่ทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจ Taylor Swift แสดงออก รู้สึกถึงความรักต่องานที่ผ่านมาของเธออีกครั้ง ความซาบซึ้งครั้งใหม่นี้ทำให้เธอปรารถนาที่จะรับทราบถึงความทุ่มเทของแฟนๆ ของเธอด้วยการปล่อยอัลบั้ม Taylor’s Version “ด้วยเหตุนี้” เธอครุ่นคิด “เราจะแสดงดนตรีสดทั้งหมดนี้ได้ยังไงล่ะ?

การระดมความคิดส่งผลให้มีการแสดงความยาวสามชั่วโมง 15 นาที ซึ่งพาผู้ฟังเดินทางผ่านอัลบั้มก่อนหน้าของ Taylor Swift ทั้งสิบ (และเร็วๆ นี้จะเป็นสิบเอ็ด) ซึ่งมีเพลงสี่สิบห้าเพลง คอนเสิร์ตนี้จัดแสดงไปแล้ว 152 รอบใน 54 เมืองทั่วโลก ตลอดระยะเวลาเกือบสองปี

ในคำพูดของเธอเอง “เป้าหมายของฉันคือการให้ผู้ชมแต่ละคนออกจากการแสดงด้วยความรู้สึกที่พวกเขาได้เห็นฉันหลั่งไหลพลังงานทุกออนซ์ที่ฉันมี เพื่อรักษาคำมั่นสัญญาส่วนตัว ฉันสาบานว่าจะเกินขีดจำกัดทางร่างกายและจิตใจของฉัน และผลักดันตัวเองให้หนักขึ้น แสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบวินัยและความมุ่งมั่นเพื่อสุขภาพที่ดี ความฟิต และความอดทนของฉันที่เพิ่มมากขึ้น โชคดีที่ฉันโชคดีที่มีทีมที่ยอดเยี่ยมซึ่งประกอบด้วยทีมงาน วงดนตรี นักร้อง และนักเต้น ซึ่งทุกคนต่างก็มีความมุ่งมั่นและตั้งใจเช่นเดียวกับฉัน เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอันยิ่งใหญ่และความท้าทายที่รายการนี้นำเสนอ

ในฐานะผู้ชื่นชมผู้อุทิศตน ข้าพเจ้าขอแสดงไว้ดังนี้ “ข้าพเจ้าจะกล้าขึ้นเวทีท่ามกลางสภาพอากาศต่างๆ ทั้งฝนที่ตกหนัก ร้อนที่แผดเผา ความชื้นที่กดทับ ลมกระโชกแรง และอากาศหนาวจัด ไม่ว่าสุขภาพของข้าพเจ้าจะเป็นอย่างไรก็เจ็บป่วยได้ อ่อนเพลีย บาดเจ็บ หรือถึงแม้ใจจะหนักอึ้งด้วยความเจ็บปวด ฉันก็จะพยายามทำตามคำมั่นสัญญาของตัวเอง

เธออธิบายว่าเราแสดงเพราะมีบางอย่างที่พิเศษในการนำความสุขและความประหลาดใจมาสู่เวที เราทุ่มเททำงานหนัก ทรัพยากร และพลังงาน เนื่องจากการเข้าร่วมคอนเสิร์ตไม่ใช่แค่งานธรรมดา การแลกเปลี่ยนสร้อยข้อมือมิตรภาพแต่ละเส้นอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ และใครจะรู้ว่าแรงบันดาลใจใดที่อาจจุดประกายได้หากเราสามารถสร้างบรรยากาศเหมือนฝันในทุกเมืองที่เราแสดง

โดยสรุป สวิฟต์ปิดท้ายคำนำของเธอด้วยการแอบดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป พร้อมเสริมว่า “เจอกันใหม่บทหน้า…” อย่างสนุกสนานในบทที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ

“Eras Tour Book” ของ Swift มีวางจำหน่ายแล้วที่ชั้นวางของในร้าน อ่านต่อเพื่อดูประเด็นสำคัญ ความประหลาดใจ และอื่นๆ อีกมากมาย: (โปรดทราบว่าประโยคต้นฉบับใช้แท็ก HTML ซึ่งละเว้นในการถอดความนี้)

‘คนรัก’

ในฐานะผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ ฉันอยากจะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของฉันเกี่ยวกับวิธีที่ Taylor Swift จัดโครงสร้างคอนเสิร์ตของเธอ ดังที่ปรากฎในหนังสือของเธอ เธอเลือกที่จะเดินทางผ่านทุกยุคสมัยในลำดับเดียวกันกับที่ปรากฏในรายการ โดยเริ่มจากอัลบั้ม Lover ปี 2019 เธอรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเริ่มต้นการแสดงแต่ละคืน

เธอแสดงออกว่าวลี ‘มันมาสักพักแล้ว’ มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษเพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เนื่องจากเธอไม่เคยมีโอกาสออกทัวร์อัลบั้ม ‘Lover’ มาก่อน นี่เป็นช่วงเวลาที่สดใส มีชีวิตชีวา และสนุกสนานที่พวกเขาได้เริ่มต้นขึ้น

สวิฟต์กล่าวว่าการแสดงจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยเพลง “Cruel Summer” เพื่อการเริ่มต้นที่น่าตื่นเต้นซึ่งจะกำหนดโทนเสียงของค่ำคืนที่เหลือ เธอยังตั้งข้อสังเกตว่าชุดบอดี้สูทแวววาวของ Versace ของเธอมีพลังในการยกระดับจิตวิญญาณของเธอ รักษาอาการปวดหัว และบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้

เธอเล่าต่อว่าเธอหลงใหลการแสดงที่พระอาทิตย์ตกดินตรงกับยุค “คู่รัก” มาโดยตลอด ทำให้เกิดเป็นน้ำตกสีชมพูสวยงาม เธอยังเล่าว่าเธอได้เรียนรู้วิธีพูดว่า “ยินดีต้อนรับสู่ The Eras Tour” ในภาษาต่างๆ 15 ภาษา

‘กล้าหาญ’

Swift ตอกย้ำความสำคัญของช่วงเวลา “Fearless” ของเธอ ซึ่งสะท้อนถึง “ช่วงวัยรุ่นที่ร่าเริง สดใส” ที่เธอประสบขณะแต่งอัลบั้มอายุระหว่าง 16 ถึง 18 ปี เธออธิบายว่ามันเต็มไปด้วย “ความแวววาว ไหวพริบ และจินตนาการ” “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความหลงใหลและความฝันในโรงเรียนมัธยมปลาย” เธอกล่าว “เกี่ยวกับศักยภาพ

เธอเปิดเผยว่าพ่อแม่ของเธอ Andrea และ Scott พร้อมด้วยพี่ชายของเธอ Austin เป็นคนที่ตกแต่งกีตาร์ของเธอเป็นการส่วนตัวสำหรับการแสดงในส่วนนี้ เธอยังกล่าวถึงความสำคัญที่ส่วนนี้เน้นย้ำนักดนตรีชั้นยอดในวงดนตรีแสดงสดของเธอ ซึ่งเป็นนักดนตรีในสตูดิโอในเวอร์ชันที่บันทึกซ้ำของอัลบั้มของเธอชื่อ “Taylor’s Versions”

หนึ่งในความทรงจำอันน่าจดจำของเธอในช่วงเวลานั้นคือการได้เห็นผู้คนปั้นรูปหัวใจด้วยมือของพวกเขา เช่นเดียวกับการรอคอยการตอบสนองครั้งใหญ่เมื่อฝูงชนตะโกนว่า “แต่งงานกับฉันเถอะ จูเลียต” (อ้างอิงถึงบทละครโรมิโอและจูเลียต)

หลังจากเสนอไอเดียกลุ่มหลายครั้ง เธอตั้งข้อสังเกตว่าช่วงเวลานี้ได้รวบรวมความคิดถึงอันน่าหลงใหลที่ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘Fearless’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” เธอกล่าว

‘ตลอดไป’

Swift กล่าวว่าอัลบั้มที่สองของเธอในยุคโรคระบาดมีรากฐานมาจากการเล่าเรื่องและธีมธรรมชาติ พร้อมด้วยตำนานในฤดูหนาวและเรื่องราวความรักที่อบอุ่นใจที่ส่งต่อมาจากกองไฟ

ขณะที่เธอกระตือรือร้นกับการออกแบบเวที โดยมี “ต้นไม้ที่งอกออกมาจากด้านล่างและแกรนด์เปียโนที่ปกคลุมไปด้วยมอส” เธอเน้นย้ำถึงช่วงเวลาที่อบอุ่นใจเมื่อผู้ชมจุดไฟฉายโทรศัพท์ของตนเองอย่างเป็นธรรมชาติระหว่างเพลง “Marjorie” ซึ่งเป็นเพลงที่อุทิศให้กับคุณยายผู้ล่วงลับของเธอ ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง

ในบรรดาช่วงเวลาทั้งหมดในช่วงเวลานั้น สิ่งที่เธอชอบที่สุดคือ “การเผชิญหน้าของผู้วิเศษในป่า” ในระหว่างการแสดงเพลง “Willow” ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม เธอจำได้ว่า “ฉันและนักเต้นทุกคนสวมเสื้อคลุมกำมะหยี่ที่มีลูกแก้ววิเศษอันเปล่งประกาย หมุนตัวอยู่ในสายหมอกราวกับกลุ่มสิ่งมีชีวิตในตำนาน

‘ชื่อเสียง’

สวิฟต์ประกาศว่าสิ่งนี้เป็น “รายการที่ต้องการในค่ำคืนนี้” ของเธอ โดยสังเกตว่า “เสียงสะท้อนของรอยเท้าอันลึกลับประสานกันได้อย่างไร้ที่ติกับจังหวะซินธิไซเซอร์ที่เป็นลางร้ายของเพลง ‘…Ready for It?'” เธอปรบมือให้กับท่อนนี้เนื่องจากท่าเต้นที่เร้าใจและกระพริบตา แสงไฟ งูอยู่รอบๆ และนักเต้นที่แต่งกายเหมือนเธอจากยุคอดีตถูกห่อหุ้มไว้ในกรงแก้ว

เพลงฮิตของ Swift เรื่อง “Reputation” มีศูนย์กลางอยู่ที่ธีม “การกบฏและการต่อต้าน” เธอตั้งตารอคอยที่ฝูงชนจะตะโกนว่า “1,2,3, LET’S GO BITCH” ในระหว่างการแสดงเพลง “Delicate” ซึ่งเป็นบทร้องที่มีต้นกำเนิดจากแฟนๆ ในการแสดงแต่ละครั้ง

‘พูดตอนนี้’

เมื่อเอ่ยถึงอัลบั้มที่สามของเธอซึ่งเขียนเองทั้งหมดและเน้นไปที่ความโรแมนติกเป็นอัลบั้มโปรดของเธอ สวิฟต์อธิบายว่าเธอเลือก “Enchanted” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลาทั้งหมด (โดยมี “Long Live” มาร่วมด้วยในบางคืน) เนื่องจากเป็นอัลบั้มของเธอมาโดยตลอด เพลงที่ชื่นชอบมากที่สุดจากอัลบั้ม

แม้ว่าจะไม่ได้รับเลือกให้เป็นเพลงแยกเดี่ยว แต่แฟนๆ ก็เปลี่ยนมันให้เป็นเพลงที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากอัลบั้มนั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวโน้มของแฟนๆ ที่ฉันชื่นชอบตลอดหลายปีที่ผ่านมา” เธอกล่าว “ในดินแดนที่น่าหลงใหลซึ่งอาบไปด้วยแสงสีม่วงที่ส่องประกาย ฉันตั้งเป้าที่จะปลุกเร้าเสน่ห์อันลึกลับที่เราสัมผัสได้เมื่อเราสบตาใครบางคนข้ามห้อง

‘สีแดง’

ตามที่ Swift กล่าวไว้ ดีไซเนอร์ Ashish มีบทบาทสำคัญในการช่วยเธอจำลองรูปลักษณ์แบบเดียวกันจากวิดีโอ “22” ของเธอสำหรับเพลงหลายเพลงในรายการคอนเสิร์ต Red ของเธอ นอกจากนี้เธอยังนึกถึงการเลือกพัดในแต่ละคืนเพื่อนำเสนอพร้อมกับหมวกของเธอ ซึ่งมีลายเซ็นต์อยู่ด้านใน

เธอกล่าวว่า “การกอดและความรู้สึกแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่” ระหว่างการแลกเปลี่ยนหมวก “22” ซึ่งเธอได้ส่งต่อหมวกอันโด่งดังให้กับแฟนๆ ผู้ภักดีในกลุ่มผู้ชม ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นทุกเย็น นอกจากนี้ เธอยังชี้ให้เห็นถึงประสบการณ์ของเธอในการแสดง “All Too Well (10 Minute Version)” ซึ่งเธอเรียกว่าเป็นโอกาสที่จะได้หยุดและซาบซึ้งอย่างแท้จริงกับฝูงชนจำนวนมหาศาลเหล่านี้ และความดังที่พวกเขาร้องทุกคำ มันช่างเหนือจริงอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเธอทุกครั้งที่สิ่งนี้เกิดขึ้น

‘นิทานพื้นบ้าน’

ในส่วน Folklore Swift มักจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของฉากนี้ เธอกล่าวชมเชย Ethan Tobman ดีไซเนอร์ที่อยู่เบื้องหลังห้องโดยสารส่วนกลาง ซึ่งเป็นคนๆ เดียวกับที่ร่วมงานในห้องโดยสารสำหรับมิวสิกวิดีโอ “Cardigan” ของเธอและการแสดงแกรมมี่ในปี 2021 ของเธอ

เธออธิบายว่า “เราสามารถย้ายสนามกีฬาเข้าไปในป่าได้ ไม่เพียงแต่จะมีปล่องไฟและหลังคาที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำเท่านั้น แต่ยังรู้สึกเหมือนเป็นอีกอาณาจักรหนึ่งจริงๆ” จุดเน้นหลักที่นี่คือการเล่าเรื่อง และฉันเชื่อว่าส่วนนี้ประสบความสำเร็จในการพาเราเข้าสู่โลกที่แตกต่างออกไป

‘1989’

ในขอบเขตของแฟนด้อมที่ไร้การควบคุมของฉัน ฉันขอแชร์ว่า Swift เองก็แสดงความปรารถนาให้ยุคสมัยปี 1989 ของเธอยืนหยัดในฐานะ “ความแตกต่างโดยสิ้นเชิง” เมื่อเทียบกับคติชนวิทยา เธอจินตนาการถึง “ภูมิประเทศที่มีเสียง” ซึ่งผสมผสานแฟชั่น เสรีภาพ และจิตวิญญาณที่สนุกสนานเข้าด้วยกัน หากคุณต้องการ

ใน ‘Bad Blood’ ทุกอย่างสร้างขึ้นตามจังหวะการเต้นที่ระเบิดแรงของไพโร และให้ฉันบอกคุณว่า มันเป็นซีเควนซ์ที่เร้าใจและเร้าใจที่สุดของการแสดงทั้งหมด

‘แผนกกวีทรมาน’

Swift ชี้แจงว่าขั้นตอนนี้รวมอยู่ในช่วงกลางของการทัวร์ หลังจากการเปิดตัว TTPD ในเดือนเมษายน 2024

เธอวางแผนและฝึกฝนมันเป็นการส่วนตัว และเปิดเผยต่อผู้ชมในปารีสระหว่างการแสดงเปิดทัวร์ยุโรปของเรา เธอมุ่งเป้าไปที่การออกแบบสไตล์มินิมอลลิสต์โดยเฉพาะซึ่งสร้างผลกระทบอย่างมาก โดยโดดเด่นด้วยความเรียบง่าย สีขาว ความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ

เธอกล่าวต่อว่า “ไม่มีอะไรเทียบได้กับการแสดงนี้ และมันก็น่าตื่นเต้นที่ได้พยายามทำให้เหนือกว่าการแสดงที่ฉันชื่นชอบ ในส่วนของเครื่องแต่งกายนั้น วิเวียน เวสต์วูดออกแบบอย่างยอดเยี่ยมด้วยคำพูดของฉันอย่างหรูหรา เขียนด้วยตัวเขียนบนชุดสีขาวของฉัน

นอกจากนี้ สวิฟต์ยังชี้แจงว่า “รถแลนด์โรเวอร์” ที่ใช้ในการขนส่งเธอระหว่างการแสดงนั้นจริงๆ แล้วถูกควบคุมจากภายในโดยลูกเรือคนหนึ่ง สวิฟต์มุ่งเป้าที่จะสร้างภาพลวงตาที่ครอบคลุมธีมต่างๆ เช่น การลักพาตัวเอเลี่ยน ฉากการต่อสู้ สถาบันทางศาสนาและทางจิต บ้านผีสิง และฉากห้องแต่งตัวของนักแสดงหญิง

Swift อธิบายถึงความพยายามนี้ว่ากล้าหาญอย่างเหลือเชื่อแต่ก็ประสบผลสำเร็จ ซึ่งนำไปสู่สิ่งที่ฉันเชื่อว่าเป็นช่วงค่ำคืนที่ตื่นเต้นและสะเทือนอารมณ์มากที่สุด

อะคูสติก

Swift สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวปฏิบัติต่างๆ ที่ได้นำไปใช้กับท่อน “เพลงเซอร์ไพรส์” ในระหว่างคอนเสิร์ต เริ่มตั้งแต่ตอนที่เธอประกาศกับแฟนๆ ชาวอเมริกันว่าเธอจะพยายามแสดงแต่ละเพลงเพียงครั้งเดียวเพื่อที่จะคัฟเวอร์เพลงให้ได้มากที่สุด จากแคตตาล็อกของเธอให้ได้มากที่สุด

เธอกล่าวว่าเนื่องจากกระแสนี้ แฟนๆ จะเข้าร่วมคอนเสิร์ตและให้ความสนใจว่าเพลงไหนที่ถือว่า “พลาด” หรือไม่ได้แสดงในคืนนั้น

หลังจากแสดงเกือบทั้งหมดจากเพลงที่ออกก่อนหน้านี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ก็เริ่มสร้าง “เมดเลย์” ซึ่งรวมเพลงสองถึงสามเพลงที่มีธีมหรือจังหวะคล้ายกัน เมื่อสิ้นสุดการทัวร์ เธอได้รวมเพลงเมดเลย์เหล่านี้ประมาณ 4-5 เพลงเข้ากับชุดอะคูสติกยามค่ำคืนของเธอ

เธอกล่าวว่าการทำให้การผสมผสานของเธอสมบูรณ์แบบนั้นต้องใช้การฝึกฝนอย่างมาก แต่เมื่อผู้ชมคลั่งไคล้ในระหว่างการเปลี่ยนไปสู่แทร็กใหม่ มันก็คุ้มค่ากับความพยายาม เธอยังอธิบายเพิ่มเติมว่าเวทีนั้นกลายเป็นมหาสมุทรหลังการแสดง ซึ่ง เธอได้พบกับช่วงเวลาที่น่าหลงใหลที่สุดในยามค่ำคืน

เธอหัวเราะเบาๆ และนึกถึงเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของฝูงชนในครั้งแรกที่พวกเขาเห็นมัน ซึ่งเป็นส่วนผสมของความประหลาดใจ ความหวาดกลัว และความสุข ภารกิจของเธอสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

‘เที่ยงคืน’

ตามคำบอกเล่าของ Swift ช่วงเวลา “Midnights” ประกอบไปด้วยการแสดงท่าเต้นที่เธอชื่นชอบ โดย “Vigilante Sh–” เป็นช่วงเวลาสำคัญและเป็นช่วงเวลาโปรดของเธอในช่วงเวลานั้น

เธอเล่าว่านี่เป็นประสบการณ์ที่สนุกที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา โดยหมายถึงการเต้นรำบนเก้าอี้ มันเปิดโอกาสให้ทดลองกับตัวละครเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ และขี้เล่นมากมาย

สวิฟต์อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจวัตรการเต้นของ “Mastermind” ซึ่งบ่งบอกว่าเธอบอกให้นักแสดงของเธอเปลี่ยนไปยังตำแหน่งที่แตกต่างกันบนกระดานหมากรุกระหว่างแทร็ก ซึ่งท้ายที่สุดก็ทำให้พวกเขาต้องจัดเตรียมท่าที่จำเป็นสำหรับการรุกฆาต

เธอปิดท้ายการแสดงด้วยการพูดว่า “กรรม” ตามด้วยการโปรยกระดาษโปรยปรายและความปีติยินดี เธอเขียนเกี่ยวกับความทรงจำอันลบไม่ออกที่ได้ยืนอยู่ที่นั่นกับเพื่อนศิลปินของฉัน รู้สึกทั้งเหนื่อยล้าและเบิกบานใจในทันที โดยรู้ว่าเราเพิ่งประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตตามความฝันในค่ำคืนที่เราไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะน่าอัศจรรย์ขนาดนี้

พิธีกรรมก่อนการแสดง

หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยภาพเบื้องหลังการจัดฉากบนเวที (สร้างขึ้นในช่วงสี่วัน) ไมโครโฟน กีตาร์ เครื่องแต่งกาย และภาพที่ออกแบบมาเป็นการส่วนตัวของเธอจากการซ้อมครั้งแรกของเธอและการฝึกซ้อมครั้งแรกของเธอและการดัดแปลงสำหรับ TTPD ระยะเวลา

นอกจากนี้ Swift ยังเชิญชวนให้ผู้ชมของเธอสัมผัสประสบการณ์ร่วมกันโดยเปิดเผยประเพณีก่อนการแสดงที่เธอมีร่วมกับนักเต้น นักดนตรี และนักร้องสำรอง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการที่พวกเขารวมตัวกันอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วงเวลาที่ไม่เหมือนใครและจริงใจก่อนที่จะขึ้นเวทีด้วยกัน

เธอชี้แจงว่าในระหว่างการทัวร์ จะมีคนกล่าวสุนทรพจน์โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เราแสดง สร้างแรงบันดาลใจ หรือเพียงแค่แสดงความคิดของพวกเขา ผู้พูดคนสุดท้ายของวันจะเป็นผู้เลือกว่าใครจะพูดเป็นรายต่อไป ส่วนนี้มีส่วนสำคัญในการทัวร์ของพวกเขา ช่วยให้พวกเขาผูกพันกันได้อย่างรวดเร็ว สุนทรพจน์มากมายเหล่านี้ทำให้เธอน้ำตาไหล หลังจากนั้น เราจะจับมือกัน ท่องบทสวดเดิมร่วมกัน และจากนั้นก็ถึงเวลาลงมือ – ออกไปแข่งกัน!

‘ถึงแฟนๆ’

Swift ปิดท้ายหนังสือของเธอด้วยการแสดงความเคารพต่อแฟนๆ ของเธอ แสดงความขอบคุณสำหรับการเข้าร่วม The Eras Tour และทำให้มันกลายเป็นสิ่งพิเศษ

ในตอนแรก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเสียงเชียร์ของคุณจะดังกึกก้องจนคล้ายกับแผ่นดินไหวบนแผนภูมิแผ่นดินไหว (ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า) หรือเศรษฐกิจของเมืองต่างๆ ที่เราไปเยือนจะไม่ใช่สิ่งเดียวที่คุณจะยกระดับได้ คุณปลุกจิตวิญญาณของคนรอบข้างด้วยเครื่องแต่งกายที่ประณีตและชาญฉลาด ทำให้ผู้คนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่พิเศษด้วยการสร้างกำไลมิตรภาพและมิตรภาพ นอกจากนี้เรายังได้เรียนรู้ประเพณีการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของกันและกันและดูแลกันและกัน

ในฐานะผู้ชื่นชมที่ประทับใจอย่างยิ่ง ให้ฉันเล่าให้ฟังว่ามันเหลือเชื่อแค่ไหนที่ได้เห็น Eras Tour ได้รับการยกย่องว่าเป็น “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ปลอดภัย” สำหรับความเป็นเด็กผู้หญิง วัยเด็ก หรือความเป็นมนุษย์อย่างไม่สะทกสะท้าน และเป็นทางออกสำหรับความสุขที่ไร้ขีดจำกัด ความกระตือรือร้นของคุณไม่ได้ขาดการติดต่อ! ทัวร์นี้ท้าทายผู้เข้าร่วมทั่วไป แต่กลับโอบรับทุกคนอย่างเปิดกว้าง เพราะคุณทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์สุดพิเศษนี้ สำหรับช่วงเวลาอันอบอุ่นหัวใจที่ครอบคลุมนั้น ฉันไม่สามารถแสดงความขอบคุณได้มากพอ

ก้าวต่อไป ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ปล่อยให้พฤติกรรมเชิงบวกดังกล่าวยุติลงเมื่อยุคของเราผ่านไป แต่ขอให้มั่นใจว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคที่โดดเด่นด้วยความสุขและการยอมรับ ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะค้นพบวิธีปลูกฝังสภาพแวดล้อมเหล่านี้ในชีวิตส่วนตัว โรงเรียน และที่ทำงานของเราได้ มรดกดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างแท้จริง

Just For You
Travis Kelce Saw a Kid Fall From the Stands and ‘Kept on Moving’
Kellie Pickler and Late Husband Kyle Jacobs’ Parents Headed to Court
Savannah Guthrie and Hoda Kotb Save Awkward Thanksgiving Parade Moment
[Spoiler] Wins ‘Dancing With the Stars’ Season 33: See Finale Scores
Sister Wives’ Kody Admits He Considered ‘Screwing’ Janelle Over With Land

2024-11-29 23:58