คุณจะไม่เชื่อเลยว่าผู้กำกับที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์คนนี้สามารถสร้างภาพที่ดูไม่น่าเชื่อได้อย่างไร

ในฐานะผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ ฉันได้รับเกียรติให้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทำงานในผลงานชิ้นเอกของ Brady Corbet เรื่อง “The Brutalist” ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติรอตเทอร์ดัมในปีนี้ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัล Robby Müller Award ที่นั่น ฉันชื่นชม Brady ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ในงานฝีมือของฉัน สำหรับแนวทางการทำภาพยนตร์ที่เป็นรูปธรรมของเขา เขามักจะจับตาดูงบประมาณจากทุกมุมมองอยู่เสมอ

ในฐานะผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เมื่อมีคนบอกฉันว่าเราไม่มีงบประมาณสำหรับสิ่งที่ต้องการ ฉันก็เริ่มคิดหาทางทำให้มันเกิดขึ้นจริง เพื่อเป็นการอธิบาย ฉันขอเล่าประสบการณ์จากการชมภาพยนตร์เรื่อง “The Brutalist” สักเรื่อง ในซีรีส์เรื่องนั้น อาคารที่ถูกเลือกให้เป็นบ้านของครอบครัวแวน เบอเรนไม่มีห้องนอนที่กล่าวถึงในบทภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์มีฉากหลายฉากที่ระบุชัดเจนว่าเป็นห้องนอน ดังนั้น เช่นเดียวกับผู้สร้างภาพยนตร์ ฉันเองก็พยายามหาวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์เพื่อให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้ แม้ว่าในตอนแรกจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ก็ตาม

ในสถานการณ์สมมติ ผู้กำกับภาพคนหนึ่งกล่าวว่ามีกรณีหนึ่งที่พวกเขาอาจทำงานร่วมกับผู้กำกับคนอื่น โดยใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการค้นหาสถานที่ที่หาไม่ได้เนื่องจากพวกเขาชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม แบรดี้กล่าวว่า “ผมไม่ต้องการห้องนอน” ตราบใดที่จุดประสงค์และธีมของแต่ละฉากยังคงสอดคล้องกัน เขาก็สามารถปรับตัวและหาทางออกได้ นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Brutalist” ซึ่งถ่ายทำเสร็จภายในเวลาเพียง 33 วันด้วยงบประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ การใช้ทรัพยากรและปฏิบัติได้จริงเป็นวิธีหนึ่งในการบรรลุผลลัพธ์ดังกล่าว

Crawley ตั้งข้อสังเกตว่าแม้ว่าเทพีเสรีภาพจะเป็นของขวัญล้ำค่าจากฝรั่งเศส แต่ที่ตั้งของเทพีเสรีภาพบนเกาะและบนแท่นสูงทำให้เทพีเสรีภาพอยู่ห่างไกล Crawley และ Brady มักทดลองถ่ายภาพสไตล์ที่เรียกว่า “กล้องไร้ขีดจำกัด” ซึ่งทำให้กล้องสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ทำให้พวกเขาสงสัยว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่รู้ว่าวัตถุในภาพคืออะไร” ทันใดนั้น เราก็เห็นใบหน้าและคบเพลิงลอยอยู่เหนือเรา Brady พบว่าแนวคิดนี้ชวนให้สนใจ แต่แล้วเขาก็คิดว่า “เราจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร” เราคงต้องใช้เครนยึดเกาะในนิวยอร์ก

ในตอนแรก Crawley และ Corbet คิดที่จะใช้เทพีเสรีภาพในรูปแบบต่างๆ เช่น ที่ปารีส แต่พวกเขาพบว่าค่าใช้จ่ายสูงเกินไปหรือมากเกินไป การโน้มน้าว Brady เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากต้องสะท้อนถึงธีมและรูปแบบ ในท้ายที่สุด เราได้เดินทางไปนิวยอร์กหลังจากถ่ายทำเสร็จ และใช้เวลาหนึ่งวันในการถ่ายภาพส่วนต่างๆ ของภาพยนตร์ รวมถึงทัศนียภาพเส้นขอบฟ้าของแมนฮัตตัน ตามด้วยการถ่ายทำเทพีเสรีภาพโดยใช้เลนส์เทพีเสรีภาพ ผลิตภัณฑ์สุดท้ายจากมุมมองของบรรณาธิการคือลำดับเหตุการณ์แบบไดนามิกที่มีการพลิกผันไปมา

Crawley กล่าวเสริมว่า “ในหลายๆ แง่มุม ฉากนั้นสะท้อนถึงภาพยนตร์ทั้งเรื่อง” เขาอธิบายต่อไปว่าฉากนี้สะท้อนถึงสถาบันที่ László สร้างขึ้น เนื่องจากอยู่ใต้ดินและซ่อนตัวจากแสง แนวคิดในการแสวงหาแสงระหว่างการไต่ระดับนั้นมีอยู่จริง ในระหว่างการถ่ายทำ ฉันไม่เข้าใจความสับสนที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ชม เพราะฉันรู้ว่าเรากำลังอยู่ลึกเข้าไปในเรือลำหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้ชมในปัจจุบันอ้างว่าพวกเขาคิดว่าตนเองอยู่ในค่ายกักกัน ฉากนี้สรุปการเดินทางไว้ในที่แห่งหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ครอว์ลีย์สรุปการบรรยายฉากดังกล่าวด้วยความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง โดยกล่าวว่า “ในตอนท้ายของภาพยนตร์ มีการเปิดเผยที่น่าประหลาดใจ นั่นคือ ห้องต่างๆ ภายในสถาบันมีขนาดเดียวกันกับที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานในค่ายกักกันดาเคา วิธีการของเขาในการควบคุมตัวเองอีกครั้งคือการปลดปล่อยตัวเองและรื้อเพดานออก แนวคิดในการปล่อยให้แสงส่องเข้ามาสะท้อนใจฉันอย่างลึกซึ้ง ทุกครั้งที่ฉันดูภาพยนตร์เรื่องนี้ซ้ำ ฉันมักจะรู้สึกซาบซึ้งเมื่อเข้าใจความหมายนั้น”

ในส่วนอื่นๆ ของการอภิปราย Crawley พูดถึงการร่วมงานสั้นๆ ของเขากับ Bob Dylan ในมิวสิควิดีโอเพลง “Shadow Kingdom” เขาบรรยายถึง Dylan ว่าเป็นคนพิเศษมาก แม้ว่า Crawley จะไม่ได้ชม Dylan แต่งเพลงหรืออัดเพลง แต่เขาก็ได้ข้อมูลอันมีค่ามากมาย Dylan ดูเหมือนเป็นคนที่ไม่แน่ใจว่าต้องการอะไรในขณะนั้น แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่ต้องการอะไร ซึ่งทำให้เรื่องนี้มีความน่าสนใจเพราะมีกระบวนการค้นพบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

Crawley อธิบายว่าในลักษณะเดียวกับการทำภาพยนตร์ มีบุคคลจำนวนมากที่เยาะเย้ยโดยบอกให้คุณ “แค่ค้นคว้า สร้างรายการถ่ายทำ และทำตามนั้น” อย่างไรก็ตาม การค้นพบว่าเราไม่สามารถคาดเดาหรือวางแผนทุกอย่างได้เสมอไปก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง

รางวัลดังกล่าวก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดย IFFR สมาคมผู้กำกับภาพแห่งเนเธอร์แลนด์ (NSC) และ Andrea Müller-Schirmer เพื่อยกย่องผู้กำกับภาพผู้ล่วงลับของ “Paris, Texas” รางวัลนี้มอบให้กับศิลปินด้านภาพที่มีผลงานสร้างสรรค์สไตล์ภาพที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง

2025-02-05 17:49