เรื่องราวสุดช็อก: การหยุดชะงักของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ Bitcoin ไม่ได้รับผลกระทบ! 💰😲

ชะตากรรมพลิกผันเมื่อธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตามรายงานของนิตยสาร Forbes คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของรัฐบาลกลาง (FOMC) เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยกองทุนของรัฐบาลกลางไว้ที่ระดับ 4.25% ถึง 4.5% ซึ่งถือว่าไม่น่าตื่นเต้นเท่าใดนัก ใครจะรู้ว่าเสถียรภาพทางการเงินจะน่าตื่นเต้นได้ขนาดนี้

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันสามครั้ง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากความพยายามอย่างบ้าคลั่งเมื่อปีที่แล้วที่จะควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในภาวะปกติ โดยเฟดได้อ้างถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้อที่ไม่เคยลดลงเลย ซึ่งเป็นสาเหตุของการหยุดชะงักนี้ เพราะแน่นอนว่าใครล่ะจะไม่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเงินเฟ้อดีๆ 📈

บทใหม่ในนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ

แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ แต่ธนาคารกลางสหรัฐยังคงเปิดทางเลือกไว้โดยเลือกใช้แนวทาง “รอและดู” อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตตอบสนองด้วยความกระตือรือร้นราวกับแมวในงานแสดงสุนัข Bitcoin สิ่งมีชีวิตที่ยากจะจับต้องได้นั้นสามารถยืนหยัดอยู่เหนือ 102,000 ดอลลาร์ได้ ขณะที่ Ethereum และ Solana ตัดสินใจร่วงลงเล็กน้อย ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมลดลง 2% เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวที่น่าตื่นเต้นมาก! 🎭

การหยุดจ่ายอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์การเงิน ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ ค่อย ๆ ลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและควบคุมเศรษฐกิจให้เข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่เหนือเกณฑ์มาตรฐาน 2% อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 45 เดือน ซึ่งก็เหมือนกับการดูละครน้ำเน่าใช่ไหมล่ะ

สำหรับบริบท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ต่ำกว่า 3% ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2021 ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ผสมผสานกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อ่อนลงเล็กน้อย ทั้งหมดนี้เพื่อกระตุ้นตลาดหุ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหมายความว่าเงินกู้มีราคาแพงขึ้น ส่งผลกระทบต่อทุกอย่างตั้งแต่สินเชื่อที่อยู่อาศัยไปจนถึงสินเชื่อธุรกิจ ในเดือนธันวาคม เฟดได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในอนาคต โดยคาดว่าจะมีการปรับลดเพียงเล็กน้อยในปี 2025 คำเตือน: อนาคตไม่แน่นอน! 😬

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังได้กดดันด้วย โดยเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันที ซึ่งก็เหมือนกับการดูเกมหมากรุก แต่เน้นนโยบายการเงินเป็นหลัก นอกจากนี้ ภาษีศุลกากรยังเพิ่มความซับซ้อนอีกด้วย โดยโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่านโยบายการค้าจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยและการควบคุมเงินเฟ้อของเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้สนับสนุนให้ระมัดระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะใครเล่าจะไม่ชอบหนังระทึกขวัญเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์ดีๆ

“ขอบเขตของความเป็นไปได้นั้นกว้างมาก” เขากล่าว “เราไม่ทราบว่าจะนานแค่ไหนหรือมากน้อยเพียงใด และจะเกิดขึ้นในประเทศใดบ้าง เราไม่ทราบว่าจะมีการตอบโต้หรือไม่ เราไม่ทราบว่าจะแพร่กระจายผ่านระบบเศรษฐกิจไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างไร ซึ่งยังคงต้องรอดูกันต่อไป”

สถานที่ของ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัล

เหตุการณ์พลิกผันอย่างน่าประหลาดใจ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ทำการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขายืนยันแล้วว่าธนาคารต่างๆ อาจสามารถเสนอบริการสกุลเงินดิจิทัลให้กับลูกค้าได้ ใครจะไปคิดล่ะ 😲

ผู้เชี่ยวชาญต่างพากันคาดเดาว่านี่อาจเป็นสัญญาณการล่มสลายของ Operation Chokepoint 2.0 ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่คอยกัดกินอุตสาหกรรมคริปโตมาโดยตลอด การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังเน้นย้ำถึงอิทธิพลของรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าการเมืองและคริปโตสามารถผสมผสานกันได้จริง

ด้วยบุคคลสำคัญที่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Scott Bessent ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และ Howard Lutnick จากกระทรวงพาณิชย์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในระดับต่างๆ ของรัฐบาล เตรียมตัวให้พร้อม! 🚀

2025-01-30 00:56