ขณะที่ฉันดำดิ่งสู่การเดินทางอันน่าหลงใหลของคริสโตเฟอร์ ลอยด์ กิ้งก่าคาเมเลี่ยนตัวจริงของนักแสดง ฉันก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับความสามารถของเขาในการเติมชีวิตชีวาให้กับตัวละครที่หลากหลายเช่นนี้ ตั้งแต่สาธุคุณจิมจอมเพี้ยนไปจนถึงด็อก บราวน์ผู้เก่งกาจ ลุงเฟสเตอร์ผู้แปลกประหลาด และผู้บัญชาการคลิงออนครูจผู้น่ากลัว ลอยด์ได้ทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกให้กับวัฒนธรรมสมัยนิยมที่ยังคงสะท้อนไปจากรุ่นสู่รุ่น
ค่อนข้างชัดเจนจากบทบาทที่หลากหลายและกว้างขวางของคริสโตเฟอร์ ลอยด์ ตัวละครแต่ละตัวที่เขาเล่นดูเหมือนจะอยู่เหนือความเป็นจริงเมื่อเขาเติมชีวิตชีวาเข้าไปในตัวละครเหล่านั้น ทำให้พวกเขามีเสน่ห์มากกว่าตัวละครที่เขียนขึ้นมา การแสดงล่าสุดของเขาในบทแลร์รี หลานชายของตำนานภาพยนตร์เงียบ แฟตตี้ อาร์บัคเคิลใน “Hacks” เป็นไปตามรูปแบบนี้และถือเป็นการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี Primetime ครั้งแรกของเขา (ในสาขานักแสดงรับเชิญที่โดดเด่นในซีรีส์ตลก) ในรอบ 32 ปี
ในตอน “Hacks” ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ลอยด์รับบทเป็นตัวละครแปลกๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยของสะสมและความทรงจำส่วนตัว รวมถึงเหยี่ยวสัตว์เลี้ยงด้วย ฉากนี้ถ่ายทำในสถานที่ที่บ้านแอนดรูว์ แมคนัลลี ซึ่งเป็นที่พักสไตล์ควีนแอนน์อันยิ่งใหญ่ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2430 ภายในอัลตาเดนา ที่พักเก้าห้องนอนอันกว้างขวางแห่งนี้มีหอกลมสามชั้นและกรงนกขนาดใหญ่
“ลอยด์อธิบายว่าแลร์รีเป็นคนที่ชอบสันโดษ เขาไม่ชอบแขกที่ไม่คาดคิดมาเร่ขายสินค้าหรือสถานการณ์ที่คล้ายกัน ตามที่ลอยด์แลร์รีไม่เข้าสังคมโดยธรรมชาติ เขาจะอึดอัดและกระสับกระส่ายเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เขาไม่สามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้ ดูเหมือนว่าแลร์รี่ใช้ชีวิตวัยเด็กของเขาในบ้านหลังนี้และรู้สึกปลอดภัยที่นี่”
ตัวละครที่โดดเด่นและการล้อเล่นที่เฉียบแหลมของลอยด์ในเรื่อง “Hacks” ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขา เขาสร้างชื่อเสียงให้กับบาทหลวงจิม อิกนาตอฟสกี้ผู้แปลกประหลาดในเรื่อง “Taxi” เป็นครั้งแรกในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 ในซีรีส์นี้ ตัวละครของเขาเป็นคนขับแท็กซี่สบายๆ ที่มีใจกว้างและมีจิตใจเรียบง่าย เขาชื่นชอบยาเสพติดซึ่งมีอยู่แค่เรื่องสบายๆ แม้จะชนะรางวัลเอ็มมีสองครั้งสำหรับบทบาทนี้ แต่ซิทคอมก็ไม่ใช่เส้นทางอาชีพที่เขาจินตนาการไว้ในตอนแรก
“ในช่วงต้นหรือกลางทศวรรษที่ 60 นิวยอร์กมีอคติบางประการกับการไปฮอลลีวูดและแสดงละครซิทคอม หากคุณเป็นนักแสดงที่จริงจัง เป็นนักแสดงที่แท้จริง จะถูกมองว่าเป็นการประนีประนอมต่อความซื่อสัตย์สุจริต หากคุณเป็นนักแสดงที่จริงจัง อย่างไรก็ตาม เขาเป็นนักแสดงจริงๆ ผู้กระตือรือร้นตัดสินใจที่จะท้าทายความคิดนี้เมื่อเขาย้ายไปลอสแองเจลิสแม้ว่าจะมีความสงสัยก็ตาม เมื่อมาถึงแอลเอ เขาก็ทำให้ตัวแทนของเขาตระหนักถึงการจองซิทคอมเป็นครั้งคราว วิธีการสร้างเครือข่ายกับผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดง ‘คุณไม่มีทางรู้เลย’ ตัวแทนของเขาจะพูดว่า ‘เมื่อไรที่สิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ในที่สุด’ ในที่สุดกลยุทธ์นี้ก็นำไปสู่บทบาทของเขาใน ‘Taxi’”
“เขาพบว่าบทบาทนี้น่าดึงดูดแม้กระทั่งก่อนที่จะได้อ่าน และเมื่อได้รับโอกาสในการสังเกตนักแสดงระหว่างการถ่ายทำสำหรับซีซันที่สอง ความชื่นชมของเขาก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น “ว้าว นักแสดงเหล่านี้ยอดเยี่ยมมาก!” เขานึกถึงขณะคิด ในนิวยอร์ก เขา ได้ยินมาโดยตลอดว่าโรงละครที่สมบูรณ์แบบเป็นวงดนตรี เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้เห็นในฉากนั้นเป็นสิ่งที่ดีเลิศของอุดมคตินั้น จนถึงทุกวันนี้ ความกระตือรือร้นของเขาที่มีต่อนักแสดงยังไม่ลดลงเลย เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน ทุกอย่าง เขาเอาชนะข้อสงวนใด ๆ ที่เขามีเกี่ยวกับซิทคอมอย่างรวดเร็วและตระหนักว่านี่เป็นการพัฒนาเชิงบวก ในขณะที่เขายิ้มแย้มว่า “ฉันไม่มีอะไรจะบ่นมากนัก”
สาธุคุณจิมเป็นบุคคลที่ไม่ปกติอย่างปฏิเสธไม่ได้ มักจะรุงรัง สูงส่ง และหลงลืมเนื่องจากสภาพของเขา ทันทีที่เขาพูดหรือพูดอะไรก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่หัวเราะ (หากคุณกำลังมองหากิจกรรมสนุกๆ ให้ค้นหาคลิปของ Jim บน YouTube กับเพื่อนร่วมงาน “Taxi” ของเขา Danny DeVito, Judd Hirsch, Marilu Henner, Tony Danza, Andy Kaufman และ Jeff Conaway คุณจะไม่เสียใจกับการใช้จ่าย เวลาของคุณด้วยวิธีนี้)
ลอยด์กล่าวว่า “ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับเขา ฉันสามารถเข้าใจตัวละครของเขาได้ ย้อนกลับไปตอนนั้นมีคนคล้ายกับเขาตามท้องถนน ดังนั้น ฉันเพียงแค่เฝ้าดูพวกเขา สัญชาตญาณของฉันนำทางฉัน และมันก็ให้ผลดี .. การแสดงส่วนใหญ่เกิดจากการปลดปล่อยที่ฉันรู้สึกได้ร่วมงานกับนักแสดงคนนั้นและทีมเขียนบทที่ยอดเยี่ยม พวกเขาทำให้มันง่ายดาย”
ในฐานะผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ ฉันพบว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งเสมอที่ได้เจาะลึกบทบาทที่หลากหลายที่ลอยด์นำมาสู่ชีวิต ตัวละครของเขา เช่น สาธุคุณจิมจาก “Taxi” ด็อก บราวน์จากซีรีส์ “Back to the Future” ผู้พิพากษาดูมจาก “Who Framed Roger Rabbit?” ลุงเฟสเตอร์ในภาพยนตร์เรื่อง “Addams Family” และ Klingon Commander Kruge ใน “Star Trek III: The Search for Spock” มีความคล้ายคลึงกันที่น่าทึ่ง – พวกเขาทั้งหมดสร้างชุดฮาโลวีนที่ยอดเยี่ยม!
ลอยด์รู้สึกถ่อมตัวกับความรักที่ยืนยาวต่อด็อค บราวน์ ผู้ประดิษฐ์ฟลักซ์ตัวเก็บประจุที่เก่งกาจ มีเมตตา และแปลกประหลาด (“สก็อตต์ผู้ยิ่งใหญ่!”) “ฉันได้ทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว และไม่มีอะไรเทียบได้กับวิธีที่ ‘Back to the Future’ ฝังแน่นอยู่ในจิตใจของผู้คน” เขากล่าว “มันมหัศจรรย์มาก แทบทุกวัน และแน่นอนว่าฉันไปที่ Comic-Cons ผู้คนมักจะพูดว่า ‘คุณสร้างวัยเด็กของฉัน’ และมีการอ้างอิงอีกอย่างหนึ่งที่เทียบเท่ากับเรื่องนั้น โดยที่ ‘Back to the Future’ ช่วยเติมเต็มช่องว่างในชีวิตของเด็ก ๆ มากมาย ผู้คนที่ได้กลายมาเป็นหมอ นักวิทยาศาสตร์ และได้อะไรมาบ้าง ขอบคุณมากและฉันก็รู้สึกดีกับเรื่องนั้นจริงๆ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น”
ในภาพยนตร์เรื่อง “Addams Family” ลุงเฟสเตอร์มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับเขา เขาเล่าเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจเกี่ยวกับวัยเด็กของเขา ซึ่งครอบครัวของเขาเคยสมัครรับนิตยสาร The New Yorker แม้จะไม่ได้อ่านบทความเหล่านี้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่เขาก็ยังหลงใหลในการ์ตูน โดยเฉพาะการ์ตูนของ Charles Addams สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มีหลายครั้งที่การ์ตูนจะมีลุงเฟสเตอร์เคียงข้างคนอื่นๆ ในครอบครัวอดัมส์
“ลอยด์แสดงความชื่นชอบมัน” ลอยด์กล่าว “มันไม่ได้ชั่วร้าย แต่ซน เหมือนลุงเฟสเตอร์มาก เขาแค่มีพรสวรรค์ด้านความสนุกสนาน ต่อมาช่วงชีวิตนั้นของฉันก็จบลง และฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในปีต่อมาเมื่อได้รับโทรศัพท์ถามว่าจะพิจารณาเล่นไหม ลุงเฟสเตอร์มีโอกาสได้แสดงเป็นตัวละครที่ฉันชื่นชอบตอนเด็กๆ มากแค่ไหน”
ในอดีตไม่น่าเป็นไปได้ที่เด็กจะจินตนาการว่าตัวเองเป็นแอ็คชั่น แต่ลอยด์ก็มาถึงสถานะนั้นแล้ว แฟน ๆ ของ Star Trek จะเข้าใจการอ้างอิงของฉัน – ตุ๊กตา Klingon Commander Kruge ขนาด 12 นิ้วมีความคล้ายคลึงกับ Lloyd อย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่วินาทีที่ผู้กำกับลีโอนาร์ด นิมอยขอให้เขาสวมหน้าผาก คิ้ว และเคราแพะของตัวละคร ตัวร้ายก็ถูกสร้างขึ้นทันที
“เขาจะมาถึงพาราเมาท์ สตูดิโอ ตอนสี่โมงเช้าเพื่อแต่งหน้าและสวมชุด ซึ่งช่วยเสริมหน้าผากของเขาอย่างเห็นได้ชัด การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังรวบรวมตัวละครนี้ เขาประหลาดใจกับกระบวนการนี้และตั้งเป้าที่จะค้นพบแง่มุมต่างๆ ของตัวละคร ที่ผู้ชมสามารถเชื่อมโยงด้วยในระดับส่วนตัว แม้ว่าตัวละครจะไม่ใช่คนที่คุณอยากชวนไปทานอาหารเย็น แต่เขาต้องการให้ผู้ชมจดจำตัวเองได้ในบุคคลนี้ ไม่ใช่คนต่างด้าว – คนที่พวกเขาสามารถสนทนาด้วยได้”
Sorry. No data so far.
2024-08-20 00:47