ในฐานะตากล้องหน้าใหม่ ฉันพบว่าตัวเองได้รับแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้งจากการเดินทางที่ไม่ธรรมดาของศิลปินที่มีพรสวรรค์สองคนในสาขานี้ ได้แก่ อดัม ซอฟเฟอร์ และรินา หยาง
ช่างถ่ายภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญมากกว่าการเป็นคนที่อยู่หลังกล้อง พวกเขาทำหน้าที่เป็นคนสนิท โฆษก คณะกรรมการเสียง ผู้สนับสนุน และผู้แปลความคิดให้กับผู้อำนวยการ สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าทำไมความสามารถในการปรับตัวจึงถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับช่างภาพ ดังที่ช่างภาพถ่ายภาพยนตร์ดาวรุ่งหลายคนเน้นย้ำในรายชื่อ EbMaster ในปี 2024 คุณได้เห็นผลงานของพวกเขาในภาพยนตร์ โทรทัศน์ มิวสิควิดีโอ และโฆษณาแล้ว อ่านด้านล่างว่าผู้ได้รับรางวัลในปีนี้แต่ละคนได้พัฒนามุมมองที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์อย่างไร ซึ่งไม่เพียงแต่บรรลุถึงวิสัยทัศน์ของผู้กำกับเท่านั้น แต่ยังขยายและปรับปรุงวิสัยทัศน์อีกด้วย – ท็อดด์ กิลคริสต์
อายานา บารากา (“In the Arena: Serena Williams)
ในฐานะผู้วิจารณ์ภาพยนตร์ ฉันจะพูดแบบนี้: “Baraka ผู้กำกับภาพมากทักษะเบื้องหลังโปรเจ็กต์ที่น่าดึงดูดอย่าง ‘In the Arena: Serena Williams’, ‘Boys in Blue’ และสารคดี ‘Uncharted’ ของ Alicia Keys แบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ของเขา วิสัยทัศน์ เขาปรารถนาที่จะสร้างสรรค์เรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งท้าทายมุมมอง ยืนหยัดเหนือกาลเวลา และสอดคล้องกับความจริง เป้าหมายของเขาคือการให้ผู้ชมละทิ้งเรื่องราวเหล่านี้ด้วยมุมมองที่สดใหม่เกี่ยวกับชีวิตและโลกรอบตัวพวกเขา
หลังจากได้รับปริญญาจากวิทยาลัย บารากาก็เริ่มทำงานด้านการดูแลสุขภาพ แต่ไม่นานก็รู้สึกไม่พอใจ เพื่อแสวงหาความสำเร็จ เธอได้เข้าร่วม USC School of Cinematic Arts ที่นั่น สารคดีสองเรื่องที่เธอร่วมงานด้วยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี นอกจากนี้ สารคดีขนาดสั้นของเธอเอง “ญิฮาดในฮอลลีวูด” ยังถูกซื้อโดยอัลจาซีรา และขยายเป็นภาพยนตร์ขนาดเต็ม ประสบการณ์นี้ช่วยปลุกความคิดสร้างสรรค์ให้กับบารากา ซึ่งนับแต่นั้นมาเธอยังคงเดินทางต่อไปในฐานะผู้กำกับภาพ
Baraka กล่าวว่านี่คือสิ่งที่จุดประกายความหลงใหลของเขาในการส่องสว่างบุคคลด้วยสีสัน เขาตั้งข้อสังเกตว่าการให้ความสำคัญกับการไฮไลต์และจงใจปรับปรุงสีผิวนั้นไม่ได้รับการพิจารณามาก่อน
รอคอยที่จะเจาะลึกเนื้อหาที่มีสคริปต์ในระยะต่อไปในอาชีพการงานของเธอ Baraka เชื่อว่าประสบการณ์ของเธอในสารคดีจะเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ เธอเน้นย้ำถึงความยืดหยุ่นที่เธอได้รับเมื่อต้องรับมือกับปัญหาระหว่างการผลิต “In the Arena: Serena Williams” เพื่อเป็นการเตรียมการที่เหมาะสมที่สุด
ปัจจุบัน Baraka เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้อำนวยการด้านการถ่ายภาพหญิงผิวดำเพียงหกคนภายในสหภาพ IATSE Local 600 เธอเน้นย้ำว่าตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครนี้ทำให้เธอมีมุมมองที่โดดเด่นในการขยายมุมมองและการเป็นตัวแทนของคนผิวสีผ่านผลงานภาพยนตร์ของเธอ
จากข้อมูลของ Baraka สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาคือต้องมีส่วนร่วมในงานที่เน้นไปที่ผู้หญิงแอฟริกันอเมริกัน เขาเน้นย้ำว่าการมีผู้สร้างที่มีความเข้าใจในประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ – อันเดรส บูเอนาโฮรา
ตัวแทน: เอเจนซี่: Alexander Creatives; สเตฟานี พฟิงสเตน, Lumos PR
อิทธิพล: โทเบียส ชลีสเลอร์, โรดริโก ปรีเอโต
เวโรนิกา บูซา (“The Gutter”)
บูซา ผู้กำกับภาพซึ่งรับผิดชอบงานต่างๆ เช่น ‘Grassland’, ‘The Always Sunny Podcast’ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง ‘The Gutter’ ที่เตรียมเข้าฉาย แสดงออกถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับศิลปะแห่งการเล่าเรื่อง เขาค้นพบความมีเสน่ห์ในการเปลี่ยนสคริปต์ให้เป็นสื่อที่จับต้องได้” เขากล่าว
บุคคลนี้มาจากลอสแอนเจลีส โดยเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย DePaul ในชิคาโกเพื่อศึกษาภาพยนตร์ หลังจากนั้น พวกเขาได้รับประสบการณ์การทำงานในแผนกกล้องและไฟฟ้าในรายการทีวี เช่น “Jane the Virgin”, “Brooklyn Nine-Nine” และ “Chicago P.D.
บูซาเล่าว่าเธอมาถึงจุดที่เธอปรารถนาที่จะสร้างสรรค์อีกครั้ง ซึ่งทำให้เธอเปลี่ยนมาสู่อาชีพการถ่ายภาพยนตร์ เธอค่อยๆ ไต่ขึ้นบันได ดำเนินโครงการขนาดใหญ่ และในที่สุดก็กลับไปสู่ระดับสหภาพ
Bouza มองว่าการถ่ายภาพยนตร์เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความสามารถในการปรับตัว เนื่องจากความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยีกล้องและการจัดแสง เธอแสดงความปรารถนาที่จะถ่ายทำภาพยนตร์ในประเภทต่างๆ ต่อไป โดยใช้สไปค์ ลีและเออร์เนสต์ ดิกเคอร์สัน พี่น้องโคเอนและโรเจอร์ ดีกินส์ และแบร์รี เจนกินส์และเจมส์ แล็กซ์ตันเป็นตัวอย่างของคู่ผู้กำกับ-ผู้กำกับภาพผู้มีอิทธิพลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับงานของเธอ
สำหรับเรื่องราวทุกเรื่อง มันเป็นโอกาสใหม่สำหรับผมที่จะพยายามทำให้เรื่องราวให้ความรู้สึกสมจริงและจริงใจ” บูซาอธิบาย “อาชีพของผมดำเนินไปราวกับปฏิกิริยาลูกโซ่ ซึ่งแต่ละบทบาทปูทางไปสู่บทต่อไป อาจต้องใช้เวลาสักระยะแต่ฉันก็มุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงจุดหมาย
ในแถลงการณ์ล่าสุด ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์บูซากล่าวถึงผลงานล่าสุดของเธอ “The Gutter” ซึ่งเปิดตัวที่ South By Southwest ในปี 2024 โดยเป็นการผสมผสานระหว่าง “Talladega Nights: The Ballad of Ricky Bobby” และ “Kingpin” Bouza เน้นย้ำว่าความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้จากการทำงานร่วมกันและความสามารถในการปรับสไตล์การมองเห็นของตนเองจากโปรเจ็กต์หนึ่งไปอีกโปรเจ็กต์ แม้ว่าจะเป็นหนังตลกที่ไร้สาระ แต่บูซาก็ยอมรับว่ามีหนังตลกหน้าตาดีอยู่ โดยอ้างว่าผลงานของพอล โธมัส แอนเดอร์สันและโรเบิร์ต เอลสวิตในเรื่อง ‘Boogie Nights’ เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจด้านภาพหลักของพวกเขาสำหรับ “The Gutter” – เอ.บี.
ตัวแทน: หน่วยงาน: หน่วยงานการผลิตทั่วโลก
อิทธิพล: โรดริโก พรีโต, จานุซ คามินสกี้ และลอว์เรนซ์ เชอร์
ลอเรน กีเทราส (“Dandelion”)
หลังจากความสำเร็จของ “Ma Belle, My Beauty” ที่ Sundance 2021 และ “Ziwe” ซีซั่น 2 หลายตอน ฉันตื่นเต้นที่จะได้แชร์ว่าโปรเจ็กต์ล่าสุดของฉัน “Dandelion” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกที่ South by Southwest ในเดือนมีนาคม 2024 ภาพยนตร์เรื่องนี้ กำกับโดยนิโคล รีเกล ผู้มากความสามารถ พาเราไปสู่การเดินทางของนักร้อง-นักแต่งเพลงผู้ไม่แยแสซึ่งพบว่าตัวเองติดอยู่กับมือกีตาร์ที่เดินออกจากอาชีพนักดนตรีเมื่อหลายปีก่อน
Guiteras ระบุว่าโปรเจ็กต์นี้ไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ที่เขาเคยทำมาก่อน นี่เป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเขาในการสร้างภาพยนตร์และเป็นเพียงบทบาทที่สองของเขาโดยรวม ทำให้เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อสำหรับเขา
ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น Lauren Guiteras มีความทะเยอทะยานที่ชัดเจนในการเป็นผู้กำกับภาพ เธอเติบโตที่ชานเมืองเซาท์ฟลอริดา เธอหลงใหลในการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก และมักจะยืมกล้อง Canon Rebel T3-I ของแม่เธอมาใช้เพื่อถ่ายภาพตัวแบบต่างๆ หลังจากสำเร็จการศึกษาจากนอร์ธเวสเทิร์น Guiteras ได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่ AFI ในนิวยอร์กซิตี้ เธอเลือกที่จะอยู่ในเมือง โดยสร้างกิจวัตรประจำวันที่มักจะรวมถึงการเดินทางไปยังสถาบันดนตรีบรูคลินและโรงละคร Walter Reade ของ Lincoln Center เพื่อดื่มด่ำกับภาพยนตร์ต่างประเทศ
ตามที่ Guiteras กล่าว ภาพยนตร์ระดับโลกเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะผลงานที่ท้าทายขอบเขตเดิมๆ แม้ว่าจะทำงานในโครงการที่ขับเคลื่อนด้วยเรื่องราวตามแบบแผน แต่เขาก็ยังตั้งใจแสวงหาแรงบันดาลใจจากแหล่งข้อมูลที่แหวกแนวเพื่อส่งเสริมแนวคิดดั้งเดิม – แจ็ค ดันน์
ตัวแทน: เอเจนซี่: อาร์ทิสทรี
อิทธิพล: การถ่ายภาพนิ่ง ภาพยนตร์โลก ภาพยนตร์ทดลอง
เรียวมะ โคฮาริ (“ซันนี่”)
ความหลงใหลในการสร้างภาพยนตร์ของเรียวมะ โคฮาริหยั่งรากในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในลอสแองเจลิส โดยเข้าเรียนในโรงเรียนและใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ในการทำงานกับกองถ่ายภาพยนตร์อิสระในฐานะอาสาสมัคร ความหลงใหลในการถ่ายภาพยนตร์ของเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้นเมื่อเขาทำงานกับฟิล์ม 16 มม. เมื่อกลับมายังบ้านเกิดที่ญี่ปุ่น เขาใช้เวลาเพิ่มอีกเก้าปีในตำแหน่งผู้ช่วยกล้อง (AC) ก่อนที่จะผันตัวไปเป็นนักถ่ายภาพยนตร์เต็มเวลา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาได้บันทึกโครงการสำหรับแบรนด์ต่างๆ เช่น Shiseido และ Lexus และในปี 2019 เขาได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Fake Plastic Planet” เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้เพิ่มตอนหนึ่งของซีรีส์ “Sunny” ของ Apple TV+ ด้วยความสวยงามที่มีชีวิตชีวาของรายการเกมโชว์ของญี่ปุ่น
ในอาชีพของเขา โคฮาริได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสตีฟ แอนนิส ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “อีกา” หรือ “ฉันเป็นราศีกันย์” ในช่วงต้นของการเดินทาง โคฮาริทำงานร่วมกับแอนนิส ในเวลานั้น Kohari ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เป็นผู้กำกับภาพ แต่ Annis ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ควบคุมกล้องมาก่อน ได้แบ่งปันเส้นทางสู่การเป็นช่างถ่ายภาพยนตร์ร่วมกับเขา โคฮารินึกถึงบทสนทนานี้และรู้ว่าบทสนทนาดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอย่างไร นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่าเขาชอบเลนส์เหมือนกับ Annis และอิทธิพลนี้ทำให้เขาหันมาใช้สไตล์การถ่ายภาพแบบถือกล้องในมือ
J.D. ตั้งข้อสังเกตว่า Kohari มุ่งเน้นไปที่โครงการโฆษณาเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง เช่น โปรโมชั่น Ikea, Subaru และ Pokemon Unite ไม่ว่างานใดๆ จะเกิดขึ้น Kohari ตั้งเป้าที่จะ “คว้าอารมณ์อันฉุนเฉียว” ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกหรือการกระทำใดๆ ก็ตาม ในมุมมองของเขา การมุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาที่สะท้อนอารมณ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่ทำให้ตัวแบบโดดเด่นอย่างแท้จริง
ตัวแทน: เอเจนซี่: Kiramecki Inc.
อิทธิพล: สตีฟ แอนนิส อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์
เสี่ยวหลง หลิว (“น่าเกลียด”)
Liu ผู้ได้รับรางวัล ASC (American Society of Cinematographers) ปี 2024 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก CAMERIMAGE ในปี 2019 จากมิวสิกวิดีโอ “Joke Ting” ของ Goldlink เขาได้ร่วมงานกับศิลปินอย่าง The Weeknd, SZA และ Travis Scott และล่าสุด เขาได้ถ่ายทำโปรเจ็กต์ “Not Like Us” ให้กับ Dave Free ร่วมกับ Kendrick Lamar ผู้ร่วมกำกับ
มีพื้นเพมาจากประเทศจีน แต่เติบโตในเยอรมนี ต่อมาหลิวได้ย้ายไปอเมริกาเพื่อทำตามความฝันในการสร้างภาพยนตร์ “ฉันพบว่ามันเป็นเรื่องท้าทายเสมอที่จะยอมรับวัฒนธรรมเดียวอย่างเต็มที่” เขายอมรับ “ตลอดชีวิตของฉัน ฉันตามหาอัตลักษณ์ทางศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันได้เรียนรู้ว่าความรู้สึกของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเองมีอิทธิพลอย่างมากต่อมุมมองและการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ของฉัน ซึ่งมักปรากฏชัดในงานของฉัน .
ความหลงใหลในภาพยนตร์ของ Liu มีต้นกำเนิดมาจากพ่อของเขา ซึ่งตกหลุมรักแม่ของเขาที่โรงละครจีนในตานตง ขณะทำงานเป็นนักฉายภาพยนตร์ แม้จะละทิ้งความฝันของตัวเองในการชมภาพยนตร์เพื่อเปิดร้านอาหารในเยอรมนีหลังจากย้ายมาที่นั่นเมื่อหลิวอายุได้ 6 ขวบ พ่อของหลิวมักจะเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกชายของเขาเดินบนเส้นทางที่เขาเองทำไม่ได้
ล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องที่สองของหลิวเรื่อง “Uglies” ได้รับการเผยแพร่ทาง Netflix ในอุตสาหกรรมที่พัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีอยู่เสมอ Liu ให้ความสำคัญกับพลังของสัญชาตญาณของมนุษย์ในการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ: “สำหรับฉัน เทคโนโลยีมีบทบาทรองในระหว่างการเดินทางที่สร้างสรรค์ของฉัน แนวคิดนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และเครื่องมือต่างๆ ก็เป็นเพียงผู้ตามเท่านั้น” เขา อธิบาย “โดยพื้นฐานแล้ว ดวงตาที่เฉียบแหลมและการจัดการแสงด้านหลังกล้องเป็นตัวกำหนดความลึกและบรรยากาศของภาพ” — เอมิเลียนา เบตันคอร์ต
ตัวแทน: เอเจนซี่: CAA
อิทธิพล: Lucas Zal, Adam Arkapaw และ Jarin Blaschke
กาโล โอลิวาเรส (“เอเลี่ยน: โรมูลุส”)
ทั้งใน “Roma” และ “Alien: Romulus” โอลิวาเรส ซึ่งเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญได้พิสูจน์ตัวเองไม่เพียงแต่ในฐานะช่างถ่ายภาพยนตร์ที่มีทักษะเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษที่แปลกประหลาดในการอยู่ในจุดที่สมบูรณ์แบบในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เมื่อผู้ร่วมมือตามปกติของผู้กำกับไม่อยู่ เขาก็ก้าวขึ้นไปบนจาน ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตภาพที่แท้จริงและไม่อาจลบเลือนได้ ดังที่โอลิวาเรสกล่าวไว้ “คุณต้องยืดหยุ่นเพราะว่าคุณคือสายตาของผู้กำกับ
Olivares เดิมทีมาจากอูรัวปัน ประเทศเม็กซิโก (มักเรียกกันว่าเป็นศูนย์กลางอะโวคาโดระดับโลก) Olivares รู้สึกจำใจต้องออกจากบ้านเกิดและออกเดินทางตามหาความคิดสร้างสรรค์หลังจากผลงาน “Amores Perros” ของ Alejandro González Iñárritu ต่อจากนั้น เขาได้ศึกษาด้านการสื่อสารในกวาดาลาฮารา ก่อนที่จะย้ายไปเม็กซิโกซิตี้เพื่อทำงานในบ้านเช่าสำหรับอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ ในขณะเดียวกันก็สมัครเข้าเรียนในโรงเรียนภาพยนตร์เดียวกันกับที่เลี้ยงดู Alfonso Cuarón, Emmanuel “Chivo” Lubezki และ Rodrigo Prieto ไปพร้อมๆ กัน น่าเสียดายที่แม้จะได้รับการยอมรับ แต่สถานการณ์ของเขาทำให้เขาต้องถอนตัวหลังจากผ่านไปไม่กี่ปี “ผมใกล้จะอายุ 30 ขวบแล้ว และกำลังดิ้นรนเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ” เขาเล่า
เขาเล่าว่าโชคดีที่เขาได้สร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ‘El Vigilante’ และจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่ออัลฟองโซและชิโวแนะนำให้เขารู้จักกับ ‘Roma’ ประสบการณ์นี้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาอย่างมาก
ในภาพยนตร์เรื่อง “Romulus” Olivares และผู้กำกับ Fede Álvarez จัดการงานในการทำให้สุนทรียภาพของภาพในภาพยนตร์ “Alien” สองเรื่องแรกทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกันก็รักษาความรู้สึกดั้งเดิมเอาไว้ ขณะที่เขาเล่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เลนส์สามตัวเป็นหลัก ซึ่งเป็นตัวเลือกที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมในระหว่างการถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปทั่วโลกกว่า 347 ล้านเหรียญสหรัฐ (และยังคงทำรายได้ต่อไป) ทำให้เขาผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับความพยายามในอนาคต สำหรับตอนนี้ เขากำลังพยายามมองหาโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับพันธมิตรในอุดมคติที่เขายังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ ในระหว่างนี้ เขายุ่งอยู่กับการทำงานในโครงการเชิงพาณิชย์และใช้เวลาร่วมกับลูกแฝดวัย 3 ขวบ — ท็อดด์ กิลคริสต์
ตัวแทน: เอเจนซี่: CAA
อิทธิพล: แฮร์ริส ซาวิเดส, โรเจอร์ ดีกินส์, เอ็ดเวิร์ด แลชแมน
จิโอวานนี ริบิซี (“Strange Darling”)
ก่อนที่จะแสดง “Strange Darling” โดย JT Mollner นักแสดงริบิซีได้รับการยอมรับจากบทบาทของเขาในภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม โปรเจ็กต์นี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเขาในฐานะผู้กำกับภาพในภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับ Ribisi ในการแสดงออกถึงสัญชาตญาณสร้างสรรค์ที่หลากหลายและไม่อาจควบคุมได้ ดังที่เขากล่าวไว้ “คำอธิบายที่กระชับคือฉันไม่สามารถต้านทานได้ ฉันเพียงแต่ทำตามแรงกระตุ้น เพราะฉันหลงใหลในพลังของภาพ
หลังจากใช้เวลาในวัยเด็กไปกับกองถ่ายภาพยนตร์ ริบิซีเล่าว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขามักเป็นทีมงานกล้อง ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องการถ่ายภาพยนตร์ เขาได้ก่อตั้งและขายบริษัทวิชวลเอฟเฟ็กต์ชื่อ Stereo D ไปในที่สุด เขายอมรับว่ารู้สึกถูกดึงดูดให้อยู่หลังกล้อง “ฉันรู้สึกอยาก” เขากล่าว “และฉันรู้ว่าฉันต้องได้รับแถบ” เขากล่าวถึงมุมมองที่หลากหลายของเขาในฐานะนักเล่าเรื่องจากการทดลองกับสาขาวิชาต่างๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา “หลังจากสี่ทศวรรษของการแสดง นี่เป็นเพียงวิธีที่ฉันประมวลผลสคริปต์ ตอนนี้ฉันควรวางตำแหน่งกล้องไว้ตรงไหน?
ริบิซีเล่าว่าเขาคุ้นเคยกับมอลเนอร์มาเป็นเวลาสามปีก่อนที่พวกเขาจะเริ่มโปรเจ็กต์ “Strange Darling” ด้วยผลประโยชน์ร่วมกัน จึงต้องใช้เวลาอีกห้าปีในการดำเนินธุรกิจนี้ ในฐานะนักแสดง เขามีโปรเจ็กต์ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ เช่น ภาคต่อของ “Avatar” และ “Horizon” แต่ความฝันของเขาคือการกำกับภาพยนตร์อิสระที่มีขนาดเล็กกว่า เขาแสดงความชื่นชอบต่อ British New Wave และ Italian Neorealists โดยระบุว่าพวกเขากำลังสร้างผลงานโดยไม่จำเป็นในการแสดงออกถึงเสียงของพวกเขา
ฉันต้องการทำโปรเจ็กต์ที่นอกเหนือไปจากการจัดการคลัง iTunes หากคุณเข้าใจความคิดของฉัน
การเป็นตัวแทน: หน่วยงานคือ CAA บริษัทจัดการคือ Linden และทีมกฎหมายประกอบด้วย Hansen, Jacobson, Teller, Hoberman, Newman, Warren, Richman, Rush, Kaller, Gellman, Meigs & Fox ( ฮจท.)
อิทธิพล: ดันเต้ ปินอตติ, สตีเฟน บูรุม, ซัลวาตอเร โตติโน, แอนดรูว์ เลสนี่
เอวา เบนจามิน ชอร์ (“Omni Loop”)
ชอร์วัย 35 ปีเคยแสดงภาพยนตร์เต็มเรื่องมาแล้วสามเรื่องก่อนที่จะมาทำงานใน “Omni Loop” แต่เธออ้างว่าหนังตลกแนวไซไฟเรื่องนี้ถือเป็นโปรเจ็กต์ที่สำคัญที่สุดที่เธอเคยทำมา Shorr อธิบายประสบการณ์นี้ว่า “มหัศจรรย์อย่างยิ่ง” และไม่สามารถพูดถึงสิ่งที่เป็นบวกได้มากพอ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Mary-Louise Parker และ Ayo Edebiri เล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งจากฟลอริดาที่ใช้การเดินทางข้ามเวลาเพื่อพัฒนาตัวเอง
ชอร์เพิ่งจบจากโรงเรียนภาพยนตร์ เปิดตัวในวงการด้วยการร่วมกำกับมิวสิกวิดีโอร่วมกับเพื่อนสนิทของเธอ ในตอนแรก พวกเขาได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมกองกำลังอย่างมืออาชีพ แต่เมื่องานเพิ่มเข้ามา เก้าอี้ผู้กำกับก็เริ่มรู้สึกเหมือนเป็นภาระให้กับชอร์ ซึ่งมาจากพอร์ตแลนด์มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจหันมาสนใจงานภาพยนตร์แทน โดยอธิบายว่ามันเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีกับความสามารถของเธอ
ในการสร้างภาพยนตร์ การเป็นสาวข้ามเพศมีอิทธิพลอย่างมากต่อมุมมองของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้จำกัดความสนใจทางศิลปะของเธออยู่เพียงหัวข้อ “เควียร์หรือเกี่ยวข้องกับเพศสภาพ” เท่านั้น Shorr ได้รับแรงบันดาลใจจากแหล่งต่างๆ เช่น วิจิตรศิลป์ สเก็ตบอร์ด และเกมไพ่สะสม Magic: The Gathering เธอหวังว่าโปรเจ็กต์ ‘Omni Loop’ ของเธอจะเป็นก้าวสำคัญสู่โอกาสที่มากขึ้นในภาพยนตร์อิสระและภาพยนตร์แนวอาร์ตเฮาส์ เนื่องจากเธอเผชิญกับความพ่ายแพ้ในฉากอิสระที่แม้แต่ปัญหาเล็กน้อยอาจทำให้โปรเจ็กต์ล่าช้าไปหลายปี — เจ.ดี.
ตัวแทน: กฎหมาย: Dattner Dispoto and Associates
อิทธิพล: ศิลปะ สเก็ตบอร์ด และ Magic the Gathering
โอเรน ซอฟเฟอร์ (“The Creator”)
ซอฟเฟอร์นับมิวสิควิดีโอของแชปเพลล์ โรอัน 2-3 เพลง (รวมถึง “ครั้งแรกของเธอด้วย” เขาตั้งข้อสังเกต) หนังสั้นหลายสิบเรื่องและคุณสมบัติสองประการที่อยู่ภายใต้เข็มขัดของเขาเมื่อแกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์และผู้กำกับภาพเจ้าของรางวัลออสการ์ เกรก เฟรเซอร์เลือกเขาเป็นคู่หู ถ่ายทำบทประพันธ์ไซไฟเรื่อง “The Creator” ด้วยราคาหนึ่งในสามของราคาภาพยนตร์ที่มีขนาดเท่ากัน มันทำให้เขามีโอกาสไม่เพียงแค่ยกระดับเท่านั้น แต่ยังเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญสองคนในคราวเดียว “เกร็กเคยร่วมงานกับแกเร็ธมาก่อน” เขากล่าว “เขาเป็นเหมือน เป็นผู้ร่วมงานจริงๆ ในฐานะผู้กำกับภาพ และละทิ้งอัตตา … ดำรงอยู่เพื่อสนับสนุนผู้กำกับและช่วยให้เข้าใจวิสัยทัศน์ของพวกเขา”
Soffer เป็นนักดูหนังมาตลอดชีวิต ค้นพบการถ่ายภาพยนตร์เพื่อผสมผสานการศึกษาด้านวิจิตรศิลป์และการถ่ายภาพเข้าด้วยกัน เขากล่าวว่าภาคผนวกของดีวีดีฉบับพิเศษสำหรับ “Lord of the Rings” ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการแนะนำรูปแบบศิลปะของเขา “ภาพยนตร์แต่ละเรื่องมีเวลา 10 ชั่วโมง และมีทั้งส่วนเกี่ยวกับการจัดแสงและทฤษฎีสี” ในขณะที่เขาก้าวไปสู่โปรเจ็กต์ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาบอกว่าเขายังคงสนุกกับการใช้โฆษณาเป็นพื้นที่ฝึกซ้อมสำหรับอุปกรณ์ใหม่ แต่ยังเพื่อฝึกฝนสไตล์ที่มองเห็นได้ชัดเจนของเขาด้วย “ฉันมักจะพยายามใช้ชุดเลนส์ที่แตกต่างกันในทุกโฆษณาที่ฉันถ่าย” ซอฟเฟอร์กล่าว “สิ่งที่แยกนักถ่ายภาพยนตร์ออกจากกันคือการสรุปรสนิยมทางสุนทรีย์ทั้งหมดของเรา รวมไปถึงประสบการณ์ในอดีต”
หลังจากโฆษณา Duracell เสร็จสิ้น โปรเจ็กต์ต่อไปของ Soffer ก็คือ “Onslaught” ของ Adam Wingard ตามความเห็นของเขา การที่ผู้กำกับและฉันมีรสนิยมเหมือนกันเป็นเรื่องสำคัญ หากเรามีแนวทางและสไตล์ที่สร้างสรรค์คล้ายกัน ทุกอย่างก็ดูตรงไปตรงมา – ที.จี.
ตัวแทน: เอเจนซี่: UTA
อิทธิพล: ดาเรียส โคนด์จิ, แฮร์ริส ซาวิเดส, เจมส์ แวนเดอร์บิลต์
รินา ยาง (“พระแม่มารี”)
ในฐานะคนชอบดูหนัง ผมขอเรียบเรียงใหม่ดังนี้:
Yang พัฒนาความหลงใหลในการถ่ายภาพยนตร์หลังจากที่พ่อของเธอมอบกล้องดิจิตอล Sony ให้เธอตั้งแต่ยังเป็นเด็ก “มันมีฟังก์ชันแอนิเมชันสต็อปโมชัน ซึ่งฉันค้นพบจากการเล่นกับมัน” เธอจำได้ “ฉันก็เลยเริ่มสร้างมันเอง ฉันแบบว่า ว้าว ตุ๊กตาของฉันกำลังเคลื่อนไหว! จากนั้นฉันก็จะแสดงโปรเจ็กต์ที่เสร็จแล้วให้ครอบครัวของฉันดู และพวกเขาจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมัน”
ด้วยของขวัญจากพ่อ เธอเดินทางไกล ไม่นานมานี้ เธอปิดฉากการทำงานในภาพยนตร์บีบหัวใจเรื่องล่าสุดของเดวิด โลเวอรี เรื่อง Mother Mary ที่นำแสดงโดยแอนน์ แฮทธาเวย์ เธอกล่าวว่า “ฉันปรารถนาที่จะสร้างภาพยนตร์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างศิลปะและผลกำไร ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่น่าดึงดูดแต่ยังกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรงได้
E.B เล่าว่าเธอมักจะพบว่าตัวเองได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศในชนบทของญี่ปุ่นที่เธอรู้จักเมื่อตอนเป็นเด็ก “ตอนโตฉันมักจะเดินเล่นในทุ่งนา ตอนเด็กๆ ฉันไม่รู้ว่าพระอาทิตย์ตกดินช่างสวยงาม มันเป็นเพียงสัญญาณว่าถึงเวลากลับบ้านเท่านั้น ทำให้ฉันรู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินแล้วน่าทึ่งจริงๆ ความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่ฉันได้เห็นเมื่อโตขึ้นมีผลกระทบต่อการรับรู้โลกของฉัน” — อี.บี.
ตัวแทน: หน่วยงาน: การจัดการ: กฎหมาย:
อิทธิพล: เอ็ดเวิร์ด ลัคแมน
Sorry. No data so far.
2024-10-17 19:23