Blake Lively และ Ryan Reynolds เดินหน้าต่อสู้ทางกฎหมายกับ Justin Baldoni สู่จุดสูงสุด!

เบลค ไลฟ์ลี และไรอัน เรย์โนลด์ส กำลังพยายามเพิ่มการปิดปากจัสติน บัลโดนีและตัวแทนทางกฎหมายของเขา หลังจากทีมกฎหมายของบัลโดนีออกมากล่าวหาเรื่องระเบิดหลายครั้ง

ผู้พิพากษาที่เคารพ

ในฐานะผู้ติดตามคดีที่น่าสนใจนี้ ฉันรู้สึกว่าจำเป็นต้องแสดงความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการกระทำของทนายความไบรอัน ฟรีดแมน ในคำร้องขอความสนใจจากคุณโดยด่วน ฉันขอเข้าเฝ้าคุณเป็นการส่วนตัวเพื่อหารือถึงพฤติกรรมที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการประพฤติมิชอบนอกกระบวนการยุติธรรมและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเขา

ฉันรอคอยคำตอบจากคุณอย่างใจจดใจจ่อ หวังว่าความยุติธรรมจะชนะในการต่อสู้ทางกฎหมายที่น่าสนใจนี้

ขอแสดงความนับถือ
ผู้ชมที่ทุ่มเท

ตามเอกสารพิเศษที่ DailyMail.com ได้รับมา ได้มีการกล่าวถึงบทสัมภาษณ์สื่อล่าสุดของ Freedman ควบคู่ไปกับการพัฒนาเว็บไซต์ใหม่โดยกลุ่มของ Baldoni เพื่อเผยแพร่ไฟล์และจดหมายโต้ตอบระหว่างเพื่อนร่วมงานสองคนที่มีความขัดแย้งกันโดยเจตนา

รายงานของเดลี่เมล์ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งอ้างอิงจากแหล่งข่าววงใน เปิดเผยว่าขณะนี้ทีมกฎหมายของบัลโดนีกำลังจัดทำเว็บไซต์ที่ครอบคลุมสำหรับคดีนี้โดยเฉพาะ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะให้สาธารณชนเข้าถึงฟุตเทจดิบต่างๆ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ ซึ่งอาจยืนยันคำร้องเบื้องต้นของไลฟ์ลีที่มีต่อนักแสดงได้

ฟรีดแมนยังได้เตือนต่อสาธารณะอีกด้วยว่า “เรามีใบเสร็จทั้งหมด – และอื่นๆ อีกมาก”

อย่างไรก็ตาม ทนายความของทั้งคู่ ไมเคิล เจ. ก็อตต์ลิบ ยืนยันว่า เว็บไซต์และแถลงการณ์ของฟรีดแมนเป็นส่วนประกอบของความพยายามที่จะโน้มน้าวทั้งการดำเนินคดีและความคิดเห็นของสาธารณชนเกี่ยวกับคดีโดยใช้เนื้อหาที่ยั่วยุ

ในจดหมายนั้น ก็อตลิบบ์ชี้แจงว่าบุคคลนี้ตั้งใจที่จะส่งผลเสียต่ออาชีพนักแสดงของเบลค ไลฟ์ลีอย่างมาก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เขาจึงวางแผนสร้างเว็บไซต์ที่เขาจะเผยแพร่เอกสารสำคัญและการติดต่อสื่อสารระหว่างนางไลฟ์ลีและนายบัลโดนี ตามคำแถลงของเขา

เว็บไซต์ที่จะเปิดตัวนี้คาดว่าจะเผยแพร่ “บทสนทนาที่หยาบคาย” จาก WhatsApp ข้อความ และอีเมลระหว่าง Lively และ Baldoni ตามที่นาย Freedman อ้าง แต่ควรทราบไว้ว่าสื่อและสาธารณชนจะไม่สามารถระบุได้ว่าข้อความใดบ้างที่อาจถูกละเว้นจากการเปิดเผยโดยเจตนา ซึ่งอาจรวมถึงการสื่อสารที่ถูกลบโดยนาย Freedman หรือลูกค้าของเขา

โดยพื้นฐานแล้ว Gottlieb โต้แย้งว่าเว็บไซต์อาจจงใจไม่โต้ตอบระหว่าง Freedman และ Baldoni กับสื่อต่างๆ นั่นหมายความว่าข้อมูลที่ให้มาอาจไม่เพียงพอ บิดเบือน และอาจไม่ยุติธรรมตั้งแต่การสร้างข้อมูลขึ้นมา

นอกจากนี้ เขายังบอกเป็นนัยว่าการที่ฟรีดแมนพรรณนาถึงความต้องการของไลฟ์ลีในการสั่งห้ามพูดเพื่อพยายามปิดปากเธอ เป็นความพยายามที่จะทำลายชื่อเสียงของเธอ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เขาก็คิดว่าฟรีดแมนกำลังพยายามทำลายตัวละครของไลฟ์ลี

บุคคลที่ทราบเรื่องดังกล่าวอ้างว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเปิดเผยเกี่ยวกับกรณีนี้ และพวกเขายืนยันว่าจะไม่มีการนำเสนอข้อมูลที่มีความลำเอียงหรือเลือกเฉพาะข้อมูล

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฉันได้แบ่งปันความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ของฉันกับ DailyMail.com: ภารกิจของเว็บไซต์นี้คือการต่อต้านการเลือกปฏิบัติ แทนที่จะเลือกเฉพาะเนื้อหาบางส่วน บิดเบือนข้อความ หรือเลือกเฉพาะเนื้อหาที่ส่งให้กับนิวยอร์กไทมส์ เรามุ่งมั่นที่จะรวมเอาเนื้อหาบางส่วนและซื่อสัตย์ต่อกัน

จากการพัฒนาเมื่อเร็วๆ นี้ มีเอกสารทางศาลฉบับใหม่เปิดเผยออกมา เพียงไม่กี่วันหลังจากมีรายงานพิเศษจาก DailyMail.com ซึ่งระบุว่าในไม่ช้านี้ Blake Lively และ Ryan Reynolds อาจจะต้องเปิดเผยข้อความ อีเมล และข้อความสื่อสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Justin Baldoni และภาพยนตร์เรื่อง “It Ends With Us”

คู่รักชื่อดังแห่งฮอลลีวูดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ถูกกล่าวหาในคดีฟ้องร้องที่นักแสดงคนหนึ่งฟ้องร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หากประสบความสำเร็จ พวกเขาอาจต้องจ่ายค่าชดเชยให้เขาเป็นเงินประมาณ 400 ล้านดอลลาร์

นอกจากไลฟ์ลี (อายุ 37 ปี) และเรย์โนลด์ส (อายุ 48 ปี) รวมถึงเลสลี สโลน ตัวแทนประชาสัมพันธ์ระดับสูงของพวกเขาแล้ว พวกเขายังได้รับหมายเรียกให้ให้การด้วย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องให้การเป็นพยานอย่างละเอียดและต้องเผชิญการซักถามจากทีมกฎหมายของบัลโดนี

จากแหล่งข่าวที่มีข้อมูลครบถ้วน เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้รับแจ้งว่าคาดว่าจะได้รับหมายศาลและให้การเป็นพยานในทันที

ในข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างนักแสดงสาวไลฟ์ลี่และผู้กำกับบอลโดนี การออกหมายเรียกที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าสถานการณ์กำลังเข้มข้นและร้ายแรงมากขึ้น

ความขัดแย้งหรือความไม่ลงรอยกันระหว่าง Lively และ Baldoni ปรากฏขึ้นครั้งแรกจากกระแสข่าวลือเรื่องความตึงเครียดในกองถ่ายละครเกี่ยวกับการทารุณกรรมในครอบครัวเรื่อง “It Ends With Us” เมื่อภาพยนตร์เข้าฉายในเดือนสิงหาคม ข่าวลือเหล่านี้ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงโปรโมต

ตามคำบอกเล่าของ Baldoni ความขัดแย้งระหว่างนักแสดงนำในภาพยนตร์ทำให้เขาและครอบครัวถูกเนรเทศไปที่ห้องใต้ดินของโรงภาพยนตร์เพื่อฉายรอบปฐมทัศน์ตามคำสั่งของ Lively

ในเดือนธันวาคม ละครเรื่องนี้กลายเป็นการต่อสู้ทางกฎหมายเมื่อ Lively ฟ้องร้องในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ

ในเวลาเดียวกัน รายงานจาก The New York Times ก็ถูกเปิดเผยขึ้น โดยมีที่มาจากเอกสารทางศาลของ Lively ซึ่งกล่าวหาว่าเขาวางแผนการรณรงค์ใส่ร้ายเธอ โดยกล่าวหาเรื่องการคุกคามเป็นประเด็นสำคัญ

ก่อนหน้านี้ บัลโดนีได้ยื่นฟ้องเดอะไทมส์ในข้อหาหมิ่นประมาท และเพิ่งเริ่มดำเนินคดีกับไลฟ์ลีและเรย์โนลด์สเมื่อไม่นานนี้ โดยข้อกล่าวหาระบุว่าพวกเขาใช้อิทธิพลของคนดังในทางที่ผิดเพื่อยึดภาพยนตร์ของบัลโดนีและพยายามทำลายเส้นทางอาชีพของเขา

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ฉันพบว่าตัวเองกำลังเผชิญกับเหตุการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด DailyMail.com สามารถหาภาพต้นฉบับที่บันทึกฉากเต้นรำช้าๆ ได้สำเร็จ โดยที่ Lively กล่าวหาว่า Baldoni แสดงความไม่พอใจด้วยการถูคอของเธอและพูดว่า “มันมีกลิ่นหอมมาก” ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านไลฟ์สไตล์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดถึงปัญหาเหล่านี้อย่างเปิดเผยและซื่อสัตย์ เพื่อความเข้าใจและการเติบโต

เมื่อเดือนที่แล้ว ฉันได้ยืนยันอย่างหนักแน่นในคำประกาศสิทธิพลเมืองของฉันว่าคำพูดดังกล่าวไม่ได้ถูกได้ยินเนื่องจากฉากโรแมนติกนั้นเงียบมาก และไมโครโฟนก็ถูกปิดการใช้งานในระหว่างฉากนั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม DailyMail.com เปิดเผยว่าอุปกรณ์เสียงของ Baldoni ถูกเปิดอยู่ และพวกเขาได้รับวิดีโอที่น่าทึ่งซึ่งรวมถึงการบันทึกทั้งหมดจากทั้ง 3 เทค ซึ่งเป็นการหักล้างข้อกล่าวอ้างของ Lively ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การบันทึกดังกล่าวเผยให้เห็นถึงมิตรภาพอันอบอุ่นระหว่างคนดังทั้งสองคนก่อนที่พวกเขาจะทะเลาะกัน พวกเขาหัวเราะ พูดคุยหยอกล้อกัน และล้อเลียนขนาดจมูกของบัลโดนี รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมยามว่างที่พวกเขาทำกับคู่รักของตน

การบันทึกตั้งแต่นาทีที่เจ็ดเป็นต้นไปแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคำพูดที่ว่าเธอมีกลิ่นหอมนั้น แท้จริงแล้วเป็นการตอบกลับ Lively ที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับสเปรย์แทนของเธอในระหว่างการถ่ายทำฉากเต้นรำ ไม่ใช่ความคิดเห็นที่ไม่ได้รับการร้องขอ

ในสไตล์ที่เรียบง่ายและสนทนากันมากขึ้น: Baldoni พูดเล่นว่าเขาอาจจะไว้เคราเหมือนกับ Lively ซึ่งเธอตอบกลับว่าเขาอาจจะไปสเปรย์แทนเธอ

ต่อมาเขาพูดติดตลกว่า “กลิ่นหอมมาก” ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะคิกคัก จากนั้นเธอก็เปิดเผยว่ากลิ่นนั้นมาจากน้ำหอมหรือโลชั่นทาตัวของเธอ

ในมอนเทจนี้ เราจะเห็นบัลโดนีกำลังสัมผัสคอของไลฟ์ลีด้วยความรักในฉากที่พวกเขาแสดงเป็นคู่รัก อย่างไรก็ตาม บทสนทนาของพวกเขาจะวนเวียนอยู่กับแง่มุมทางเทคนิค เช่น การจัดแสง โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะพูดถึงคู่รักของตนแทน

วิดีโอที่ไม่ได้ตัดต่อ ซึ่งบันทึกไว้ระหว่างการถ่ายทำ “It Ends With Us” มีทั้งเสียงและภาพ และได้รับการแชร์กับ DailyMail.com โดยบริษัทผลิตภาพยนตร์ Wayfarer ของนักแสดง พร้อมด้วยทนายความของเขา Bryan Freedman ซึ่งได้ระบุว่า Baldoni ไม่มีอะไรต้องปกปิด

ในฐานะผู้ติดตามตัวยง ฉันอดไม่ได้ที่จะหลงใหลกับฟุตเทจพิเศษล่าสุดจาก DailyMail.com ซึ่งเพิ่มบทใหม่ให้กับเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว “It Ends With Us” เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เสียงกระซิบเกี่ยวกับความขัดแย้งหลังเวทีแพร่กระจายไปทั่วตั้งแต่นั้นมา และการเปิดเผยล่าสุดนี้ทำให้ฉันนั่งไม่ติดเก้าอี้!

ก่อนถึงวันคริสต์มาสเพียงไม่นาน ทั้งสองฝ่ายได้เกิดข้อพิพาททางกฎหมายอย่างดุเดือด เมื่อหญิงสาวผมสีน้ำตาลยื่นฟ้อง Baldoni ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ

ในเวลาเดียวกัน The New York Times ก็ได้ตีพิมพ์รายงานที่ได้มาจากเอกสารทางศาลของ Lively โดยกล่าวหาว่าเขาวางแผนการรณรงค์หมิ่นประมาทเธอ โดยมีประเด็นเรื่องกลิ่นตัวเป็นประเด็นหลัก

ก่อนหน้านี้ บัลโดนีได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทต่อหนังสือพิมพ์ The Times และล่าสุด เขาได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อนักแสดงสาว เบลค ไลฟ์ลี และสามีของเธอ ไรอัน เรย์โนลด์ส คดีนี้กล่าวหาว่าเธอใช้อิทธิพลของคนดังในทางที่ผิดเพื่อเข้ามาแทรกแซงโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ของเขา และทำลายอาชีพการงานของเขาโดยเจตนา

ในตอนแรก ไลฟ์ลีอ้างว่าไม่มีเสียงในวิดีโอใหม่ แต่จริงๆ แล้ววิดีโอเริ่มต้นด้วยการที่ทั้งคู่คุยกันถึงฉากหนึ่ง จากนั้นนักแสดงสาวก็บอกกับบัลโดนีว่า “ฉันก้าวข้ามจุดเริ่มต้นไปแล้ว”

ที่น่าสนใจคือ ในบางจุดของฉาก ทั้งคู่เริ่มถกเถียงกันว่าการพูดหรือการจูบกันนั้นเหมาะสมกว่ากัน ไลฟ์ลียืนกรานว่าการสนทนานั้นโรแมนติกกว่า ซึ่งบัลโดนีก็เห็นด้วย ต่อมา เมื่อไลฟ์ลีไตร่ตรองว่าจะมีใครสักคนรู้หรือไม่ว่าพวกเขาจะพูดถึงหัวข้อสนทนาที่แท้จริงของพวกเขาอย่างไร เธอพูดติดตลกว่า “พวกเขาจะไม่มีวันเดาได้เลยว่าเรากำลังพูดถึงอะไร”

การสนทนาในภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของคู่รักของพวกเขา ไลฟ์ลีเล่าว่าเธอและเรย์โนลด์สคุยกันบ่อยครั้ง ในขณะที่บัลโดนีเล่าว่าเขาและเอมิลี่ คู่สมรสของเขา มักจะมองหน้ากันเป็นเวลานาน ราวกับว่าพวกเขาทำแบบนั้นแค่ชั่วขณะเดียวเท่านั้น

หลังจากระเบิดอารมณ์อย่างร่าเริง เขาเล่าให้เธอฟังว่า “ผมเชื่อว่าคุณคงรู้สึกกลัวมาก” ต่อมา ขณะที่เธอกำลังพูดคุยเกี่ยวกับบทสนทนาที่ยังคงดำเนินอยู่กับเรย์โนลด์ส บัลโดนีก็ตอบอย่างรักใคร่ว่า “ผมคิดว่ามันน่ารักดีนะ พวกคุณสองคนดูสนิทสนมกันดีมาก”

เธอตอบด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยสบายใจนักว่า “ผมคิดว่ามันมากกว่าน่ารัก” ซึ่งเขาตอบเห็นด้วยอย่างรวดเร็วว่า “ผมเห็นด้วย ผมคิดว่าพวกคุณสองคนสุดยอดมาก”

ในบทสัมภาษณ์ บัลโดนี ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง “It Ends With Us” แสดงความต้องการให้ฉากต่างๆ แสดงให้เห็นการจูบกันอย่างใกล้ชิด สิ่งนี้ทำให้ไลฟ์ลีพูดต่อ โดยเน้นย้ำว่าการพูดคุยกันนั้นโรแมนติกกว่าการจูบผู้ชมตามที่พวกเขาคาดหวัง

ฉันแนะนำให้คุณใช้เวลาสักครู่เพื่อเชื่อมโยงกัน ฉันแนะนำให้คุณแตะหน้าผากของคุณเบาๆ เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวและเข้าใจกันระหว่างคุณสองคน

ในขณะนั้น Lively ก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาไปเป็นเรื่องจมูก โดยพูดกับ Baldoni ว่า “ฉันพบว่าตัวเองเริ่มอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น มันเป็นเรื่องของจมูกเท่านั้น”

ต่อมา บัลโดนีพูดว่า “จมูกของฉันค่อนข้างใหญ่” ซึ่งทำให้เธอหัวเราะอย่างสนุกสนาน และเธอตอบอย่างติดตลกว่า “ใช่แล้ว! นั่นคือสิ่งที่ฉันหวังว่าเราจะพูดคุยกันได้ ฉันคิดว่าฉันคงต้องติดต่อบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับเรื่องนี้และจัดการสถานการณ์นี้ ล้อเล่นนะ”

ขณะที่ฉันบันทึกต่อไป ฉันจะไปที่เทคต่อไป โดยที่ Baldoni ให้คำแนะนำแก่ทีมงานของเขาและหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของฉากกับ Lively (การเล่าเรื่องในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง)

หลังจากเริ่มการสนทนาไปได้ประมาณ 7 นาที ดูเหมือนว่าจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สำคัญซึ่งอาจจุดประกายให้ Lively ออกมากล่าวหา การสนทนาครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Baldoni ถามว่า “คุณกำลังไว้เคราให้ฉันเหรอ”

เธอหัวเราะและพูดว่า “ผมอาจจะฉีดสเปรย์แทนให้คุณ” ซึ่งเขาตอบว่า “กลิ่นหอมดี” และทั้งสองก็หัวเราะร่วมกัน

แล้วไลฟ์ลี่ก็บอกเขาว่า “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก มันเป็นเครื่องสำอางบนร่างกายของฉัน”

ท่ามกลางเสียงปรบมือของฝูงชน Baldoni ตะโกนว่า “คัท!” และแจ้งให้พวกเขาทราบว่าพวกเขาได้บันทึกภาพไว้เพียงพอสำหรับคลิปความยาว 17 นาทีแล้ว

ในฉากจบ ซึ่งเน้นไปที่เท้าของพวกเขา มีเสียงของ Baldoni พูดกับ Lively ว่า “ฉันจะให้คุณจัดการเรื่องนี้เอง” ซึ่งเธอคัดค้าน โดยอธิบายว่ารองเท้าส้นสูงของเธอไม่ปรากฏให้เห็นเนื่องจากมีกลิตเตอร์

DailyMail.com ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่สร้างความฮือฮา ซึ่งเผยแพร่เพียงไม่ถึงห้าวันหลังจากการฟ้องร้องของ Baldoni และประมาณสองสัปดาห์หลังจากที่กล่าวหาว่านักแสดงสาวได้ยื่นเอกสารทางกฎหมายให้กับนักแสดงและทีมงานขณะที่พวกเขากำลังอพยพเนื่องจากเหตุไฟไหม้ป่าในลอสแองเจลีส

ในภาพยนตร์ของ Baldoni ไลฟ์ลีถูกกล่าวหาว่าไม่ยอมอ่านหนังสือที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์จนกระทั่งถึงช่วงการถ่ายทำ และต่อมาได้ประสานงานกลยุทธ์สื่อที่ดูหมิ่นเหยียดหยามร่วมกับเลสลี สโลน ผู้ประชาสัมพันธ์ของเธอ และอาจรวมถึงนิวยอร์กไทม์สด้วย

ในกรณีเฉพาะเจาะจง ตามที่ระบุไว้ในเอกสารของศาล Lively ถูกกล่าวหาว่าพยายามข่มขู่ Baldoni โดยอ้างถึงคู่สมรสที่มีชื่อเสียงของเธอ Taylor Swift และการเปรียบเทียบกับ Daenerys Targaryen ตัวละครจาก Game of Thrones (Khaleesi) และยืนยันว่า “ฉันมีมังกรหลายตัว”

นักแสดงสาวและเพื่อนร่วมงานของเธอตกเป็นเป้าจับตามองกรณีบิดเบือนข้อความระหว่างตัวแทนของบัลโดนี โดยพวกเขากล่าวหาว่าข้อความเหล่านี้ถูกดัดแปลงเพื่อให้ดูเหมือนเป็นการกล่าวโทษและชี้ให้เห็นถึงกลวิธีโจมตีเธออย่างร้ายแรง การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดการคุกคามทางออนไลน์มากมายเมื่อข้อความที่ดัดแปลงถูกเผยแพร่ออกไป

คำโต้แย้งของ Baldoni เปิดเผยว่าในคืนรอบปฐมทัศน์ของ It Ends With Us ทั้งเขาและครอบครัวถูกบังคับให้อยู่ในห้องใต้ดินแทนที่จะอยู่กับ Lively ในห้องหลัก เนื่องจากเธอปฏิเสธไม่ให้เขาเข้าไปในพื้นที่เดียวกันกับเธอ

2025-01-27 21:14