ข่าวช็อก: เงินทุน 20 ล้านเหรียญของ Humanity Protocol จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง! 😲💰

ด้วยโชคชะตาที่พลิกผันอย่างน่ายินดี Humanity Protocol ก็สามารถเอาชนะใจเหล่าเทพเจ้าแห่งการเงินได้สำเร็จ โดยสามารถระดมทุนได้มากถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐจากการระดมทุนครั้งล่าสุด ส่งผลให้มูลค่ารวมของบริษัทพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อคำนวณเป็นมูลค่ารวมที่สูงมาก เมื่อไม่นานมานี้ ในเดือนพฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นเดือนที่อากาศอบอุ่น บริษัทนี้มีมูลค่าเพียง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น หลังจากระดมทุนไปได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ โอ้ โชคลาภกำลังพลิกผัน!

แต่เดี๋ยวก่อน ใครคืออัศวินในชุดเกราะแวววาวที่อยู่เบื้องหลังเทพนิยายทางการเงินนี้ ไม่มีใครอื่นนอกจาก Pantera Capital และ Jump Crypto ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนยักษ์ใหญ่สองแห่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถอันน่าพิศวงในการค้นหาทองคำของบล็อคเชน บริษัทเหล่านี้มีความสามารถพิเศษในการสนับสนุนโครงการที่ทำให้คนธรรมดาอย่างเราๆ ต้องเกาหัวด้วยความงุนงง 🧐

ตัวอย่างเช่น Pantera เพิ่งลงทุน 7 ล้านเหรียญสหรัฐใน Radius ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบโรลอัพ (ซึ่งหมายถึงอะไรก็ตาม) และ 10 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับ Braavos ซึ่งเป็นผู้ให้บริการกระเป๋าสตางค์แบบกระจายอำนาจ ในขณะเดียวกัน Jump Crypto ซึ่งมีความสามารถราวกับนักมายากลที่ดึงกระต่ายออกจากหมวก ได้เป็นผู้นำในการระดมทุน 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับ Raiinmaker ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ให้ผู้ใช้สามารถฝึกโมเดล AI ผ่านสมาร์ทโฟน เพราะใครล่ะที่ไม่อยากสอนโทรศัพท์ให้คิด? 🤖

ตอนนี้ นักลงทุนรายใหญ่ทั้งสองรายตัดสินใจที่จะร่วมมือกันเหมือนทีมซูเปอร์ฮีโร่ เพื่อสนับสนุนการพัฒนา Humanity Protocol เงิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐใหม่นี้จะเร่งงานกลไก Proof of Humanity ของ Humanity Protocol ระบบ Human ID และการบูรณาการกับแพลตฟอร์ม Web3 ชั้นนำได้อย่างราบรื่น เหมือนกับการมอบจรวดบูสเตอร์ให้กับจักรยาน!

ด้วยสมบัติล้ำค่าที่เพิ่งค้นพบนี้ แพลตฟอร์มจึงขยายขอบเขตการเข้าถึงของตนเอง และตั้งตำแหน่งให้ตัวเองเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามของ Worldcoin ซึ่งแตกต่างจาก Worldcoin ซึ่งใช้การสแกนม่านตาซึ่งเป็นการบุกรุกค่อนข้างมากเพื่อยืนยันตัวตนผู้ใช้ Humanity Protocol ได้เลือกใช้เทคโนโลยีการสแกนฝ่ามือที่แปลกใหม่กว่า ใช่แล้ว คุณได้ยินถูกต้องแล้ว—การสแกนฝ่ามือ! เพราะใครจะต้องการความเป็นส่วนตัวเมื่อคุณสามารถมีลายนิ้วมือที่มีเทคโนโลยีสูงได้? ✋

ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อยืนยันตัวตนของบุคคลจริงโดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน “ระบบนี้ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เช่น บอท บัญชีปลอม และการฉ้อโกงออนไลน์” เทอเรนซ์ กว็อก ผู้ก่อตั้ง Humanity Protocol ซึ่งดูเหมือนจะมีทางแก้ปัญหาทุกอย่าง กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ยอดเยี่ยมมาก เทอเรนซ์! 👏

แต่เดี๋ยวก่อน ยังมีอีก! นอกเหนือจากการยืนยันตัวตนแล้ว เงินทุนนี้ยังจะสนับสนุนโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น เงินช่วยเหลือสำหรับนักพัฒนา ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และความพยายามในการสร้างชุมชนก่อนการเปิดตัวเมนเน็ตของ Humanity Protocol ที่ทุกคนรอคอยมานาน เหมือนกับงานปาร์ตี้ที่ทุกคนได้รับเชิญ และเค้กก็ทำจากบล็อคเชน! 🎉

“ที่ Humanity Protocol เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้บุคคลต่างๆ มีตัวตนดิจิทัลที่เป็นของตนเองอย่างแท้จริง การลงทุนจาก Jump Crypto และ Pantera Capital ครั้งนี้ทำให้เราก้าวเข้าใกล้การสร้างอนาคตที่โซลูชันการระบุตัวตนแบบกระจายอำนาจและไม่ต้องไว้วางใจได้กลายมาเป็นบรรทัดฐาน เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์ซึ่งมีความเชื่อเช่นเดียวกับเราในศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี Web3” Kwok กล่าวขณะจิบลาเต้เก๋ๆ ☕

การประกาศให้ทุนสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความยินดี โดยเป็นการตอกย้ำถึงการจัดตั้งมูลนิธิ Humanity Foundation ของ Humanity Foundation เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งนำโดย Yat Siu, Mario Nawfal ผู้นำของ Web3 และ Yeewai Chong ซีอีโอชั่วคราว เพราะอะไรจะดีไปกว่าโครงการอันทะเยอทะยานเพียงโครงการเดียว? มูลนิธิทั้งหมดของพวกเขา!

Humanity Foundation เปิดตัวเมื่อวันที่ 14 มกราคม โดยจะเน้นการลงทุนในโครงการบล็อคเชนที่ผสานรวมระบบ Proof of Humanity ของ Humanity Protocol มูลนิธิมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมผ่านการวิจัย พัฒนา และกรณีการใช้งานใหม่ๆ สำหรับการยืนยันตัวตนแบบกระจายอำนาจ มูลนิธิแห่งนี้เปรียบเสมือนสถาบันวิจัยที่มีบล็อคเชนมากขึ้นและมีการประชุมที่น่าเบื่อน้อยลง

มูลนิธิพยายามเร่งการนำไปใช้ทั่วโลกและเน้นย้ำถึงความสำคัญของโซลูชันการระบุตัวตนดิจิทัลแบบกระจายอำนาจในโลกที่ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสนับสนุนการพิสูจน์ตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ที่ไม่รุกราน เพราะใครจะไม่อยากอยู่ในโลกที่ฝ่ามือของคุณสามารถไขความลับของตัวตนได้ล่ะ 🌍

2025-01-27 20:47