ในฐานะนักวิจารณ์ภาพยนตร์ผู้ช่ำชองซึ่งมีการเดินทางอย่างกว้างขวางและได้สัมผัสกับเรื่องราวระดับโลกที่หลากหลาย ฉันรู้สึกทึ่งเป็นพิเศษกับ “Hurt People Hurt People” ความร่วมมือระหว่าง Beetz Brothers และ ZDF ภายใต้การดูแลของ Jens Strohschnieder, Mathias Marx และ Duki Dror ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสำรวจความซับซ้อนในตะวันออกกลางอย่างลึกซึ้ง ผลงานก่อนหน้านี้ของพวกเขา “Supernova: The Music Festival Massacre” แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของพวกเขาในการให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญที่มักไม่มีใครสังเกตเห็นหรือนำเสนออย่างไม่ถูกต้องในสื่อกระแสหลัก
Beetz Brothers ทีมผู้ผลิตชื่อดังชาวเยอรมัน ร่วมมือกับ ZDF เพื่อสร้างสารคดีเรื่อง “Hurt People Hurt People: The Impact After 7 ตุลาคม” ซึ่งเจาะลึกถึงผลพวงของการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลและวงจรแห่งความรุนแรงที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ในตะวันออกกลาง
The Beetz Brothers ภายใต้ Leonine Studios (มีเดียวานเป็นเจ้าของ) กำลังร่วมมือกับ Duki Dror จาก Zygote Films อีกครั้ง ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยร่วมงานกันในเรื่อง ‘Supernova: The Music Festival Massacre’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่บรรยายเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในเทศกาลดนตรีทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเสียชีวิต 365 ราย ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน และ 40 รายถูกลักพาตัวไปยังฉนวนกาซา สารคดีเรื่องนี้กำลังออกอากาศในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และได้รับการฉายในเทศกาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป
สารคดีเรื่องใหม่ที่จะจัดขึ้นตรงกับวันครบรอบปีแรกของเหตุการณ์โศกนาฏกรรมของกลุ่มฮามาสและการเริ่มต้นของความขัดแย้งในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กำกับโดยผู้กำกับ Jens Strohschnieder, Mathias Marx จากเยอรมนี และ Dror จากอิสราเอล การแสดงความยาว 90 นาทีนี้เป็นการผสมผสานเรื่องราวจากอิสราเอลและกาซาโดยตรงเข้ากับข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบาดเจ็บที่มีชื่อเสียงและผู้เชี่ยวชาญในตะวันออกกลาง “Hurt People Hurt People” สำรวจว่าปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่มีจุดประสงค์เพื่อสลายกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาได้นำไปสู่บาดแผลทางจิตใจของชาวปาเลสไตน์อย่างลึกซึ้งได้อย่างไร ซึ่งเป็นการซ้ำรอยการพลัดถิ่นที่เกิดขึ้นในปี 1948
Reinhardt Beetz จาก Beetz Brothers กล่าวว่าความไม่รู้มักจะมาพร้อมกับลัทธิชาตินิยมที่เข้มแข็งและความรักชาติที่มากเกินไป เขาอธิบายว่าความรวดเร็วของภาพที่เชื่อว่าเป็นของจริงสามารถท่วมท้นความคิดเห็นของประชาชนด้วยความจริงอันเป็นเท็จได้อย่างไร การโจมตีของผู้ก่อการร้ายฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมเป็นเหตุการณ์สำคัญที่พลิกโฉมประวัติศาสตร์
หนึ่งปีผ่านไปแล้ว และตอนนี้เราเริ่มเข้าใจผลกระทบที่กว้างขวางของมันไปทั่วโลกแล้ว” Beetz กล่าว “สำหรับชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ สิ่งนี้ได้จุดประกายกล่องของ Pandora ทิ้งความประทับใจไม่รู้ลืมไว้ในประวัติศาสตร์ที่มีร่วมกันของพวกเขา” เขาแสดงความกังวลว่า ความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่สื่อถึงอนาคตอันน่าหดหู่ โดดเด่นด้วยความขาดแคลนของการปรองดองและความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเกิดจากความกลัว ความเกลียดชัง และแรงกระตุ้นในการเอาชีวิตรอด
ในใจกลางตะวันออกกลาง ฉันพบว่าตัวเองกำลังถ่ายทำอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่รู้สึกเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยม่านมืดมน โดยเฉพาะในอิสราเอลและเวสต์แบงก์ บรรยากาศก็ดูคล้ายกันมาก เต็มไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวังอย่างกดดัน ราวกับว่าทั้งสองภูมิภาคนี้ แม้จะต่างกันทางภูมิศาสตร์ แต่ก็อาศัยอยู่ในโลกคู่ขนานแห่งความโศกเศร้า
ในยุโรป การถกเถียงเกี่ยวกับความขัดแย้งในฉนวนกาซามีความเข้มข้น ซึ่งนำไปสู่การประท้วงอย่างรุนแรงในบางครั้งซึ่งแสดงความเกลียดชังต่อชาวยิว (ต่อต้านชาวยิว) และมุสลิม (ต่อต้านมุสลิม)
Dror ระบุว่าการพิจารณาวันที่ 7 ตุลาคมจากมุมมองที่กระทบกระเทือนจิตใจช่วยให้เราหลุดพ้นจากการอภิปรายทางการเมืองแบบเดิมๆ ที่มีการถกเถียงกัน ซึ่งมักจะนำไปสู่ทางตัน
Dror กล่าวว่านี่เป็นก้าวแรกของเราในการสร้างโครงเรื่องที่ช่วยให้ทุกฝ่ายได้ไตร่ตรอง โดยรับทราบถึงวงจรแห่งความหายนะที่พวกเขาพบว่าตัวเองติดอยู่ในนั้น” เป็นประโยคหนึ่งที่เป็นไปได้ของประโยคที่กำหนด
ภาพยนตร์เรื่อง ‘Hurt People Hurt People’ ซึ่งอำนวยการสร้างโดยพี่น้อง Beetz ร่วมกับ Zygote Films, ZDF, Arte และ Deutsche Welle จะออกอากาศครั้งแรกทางช่อง Deutsche Welle ทั่วโลกตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ภาพยนตร์เรื่องนี้เคยฉายรอบปฐมทัศน์ก่อนหน้านี้ทางเครือข่าย Arte ฝรั่งเศส-เยอรมันเมื่อวันที่ 24 กันยายน Deutsche Welle เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายทั่วโลกสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
ภาพถ่ายจากสารคดี:
Sorry. No data so far.
2024-09-19 19:46